ทำความรู้จัก 4 สาวงาม "อุ้ม ทวีพร - เกต เกตุวลี - ฟ้า ทองแร่ - วาเนสซ่า" ผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023
สำหรับการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้ 29 เมษายน 2566 เราจะได้ทราบกันแล้วว่าสาวงามคนไหนจะได้ครองมงกุฎเกียรติยศ ฉลอง 11 ปี มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 วันนี้ทีมข่าวอมรินทร์ ออนไลน์มีสกู๊ปพิเศษของ 4 สาวงามผู้เข้าประกวดมาให้แฟนๆของแกรนด์ได้ทำความรู้จักกับพวกเธอมากขึ้น
อุ้ม ทวีพร พริ้งจำรัส มิสแกรนด์ชุมพร
เป็นยังไงบ้างกดดันมากน้อยแค่ไหน ?
-หนูต้องบอกตรงๆค่ะว่าหนูไม่ได้กดดันเลย หนูแค่อยากจะมาทำทุกวันให้เต็มที่ที่สุด แล้วความคาดหวังของหนูมันไม่ใช่แค่มงกุฎที่ 1 แต่มันคือความสำเร็จและชีวิตหลังจากนี้ต่างหาก หนูอยากมีความสุข อยากมีเงินทอง อยากมีชื่อเสียง หนูก็เลยกลับมาประกวดอีกครั้งนึง และหนูเชื่อว่าหนูจะทำมันได้และออกมาดีด้วยค่ะ
อะไรที่เป็นจุดทำให้เราอยากกลับมาประกวดในครั้งนี้ ?
-อย่างที่บอกแหละค่ะ หนูอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น จากที่ชีวิตหนูไม่ได้แย่มากนะคะแต่หนูแค่รู้สึกว่าหลังจากนี้อยากจะดีขึ้น อยากจะมีการเปลี่ยนแปลง แล้วหนูอยากมีชื่อเสียง หนูรู้สึกว่าหนูยังสามารถไปได้อีก ในวันนี้ที่หนูยังมีศักยภาพ ยังมีแรง และยังมีความสามารถมากพอ และการกลับมาประกวดครั้งนี้มันทำให้หนูโตขึ้นด้วย แล้วอีกอย่างนึง อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเวทีมิสแกรนด์เป็นเวทีสร้างคน แล้วอย่างที่เห็นเลยว่าเวทีมิสแกรนด์ของเราโด่งดังมากๆ งานเข้า งานชุกงานชุม แล้วหนูจะปล่อยโอกาสนี้ผ่านไป หนูจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน
เป้าหมายที่วางไว้ในการประกวดในปีนี้ วางเป้าหมายตัวเองยังไงบ้าง ?
-หนูวางเป้าหมายของหนูคือความสำเร็จ แต่จะสำเร็จในทางไหนนั้นให้อนาคตและให้วันที่ 29 นี้ เป็นตัวตัดสิน หนูอาจจะสำเร็จในมุมของการมงก็ได้ หรือหนูอาจจะประสบความสำเร็จในมุมของการทำงานก็ได้ หนูยังไม่สามารถเคาะให้ตัวเองได้ว่ายังไงหนูก็มง แต่หลังจากนี้แหละค่ะ ชีวิตหลังจากนี้อาจจะเป็นเครื่องพิสูจน์และเป็นตัวตัดสิน
อุ้มเป็นคนนึงที่ผ่านเรื่องราวดราม่า ในการประกวดปีนี้ ?
-กับดราม่าที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างที่จะหนัก ถามว่าหนักที่สุดในชีวิตไหมกับการที่เกิดมาอายุ 27 ปีในตอนนี้ หนูมองว่ามันหนักมากๆ แต่ในส่วนที่หนูทำผิดหนูยอมรับผิด และหนูจะไม่ขอแก้ตัวอะไรใดๆทั้งสิ้น ที่พี่ถามว่าทำไมหนูเหมือนเป็นคนอีกคนนึงเลย คือชีวิตมันต้องเดินไปข้างหน้า ต่อให้หนูเจอเรื่องอะไรที่มันหนักหนากว่านี้ก็ตาม หนูต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ หนูมาที่นี่หนูมาประกวด หนูมาเพื่ออยากประสบความสำเร็จ และหนูจะไม่เอาเรื่องที่มันหนักใจมากดทับให้หนูไม่เดินต่อไป เพราะวันนี้หนูไม่ได้กลับมาประกวดคนเดียว หนูมีน้องๆ หนูมีแฟนคลับ หนูมีครอบครัวที่คอยซัพพอร์ตอยู่ข้างหลังเยอะแยะมากมาย หนูจะไม่ทำลายความหวังที่เขามีให้หนู
เกต เกตุวลี พลบดี มิสแกรนด์แพร่
การมาประกวดมิสแกรนด์ครั้งนี้ เป้าหมายของเราคืออะไร ?
-หนูอยากได้มงทองค่ะ และด้วยความตั้งใจของหนู สูงสุดเลยคืออยากไปฟาดกับลาติน หนูมาในกองใหญ่หนูเจอรุ่นพี่หนูไม่เคยกลัวเลย สายตาหนูมุ่งมั่น เราคนเหมือนกัน มือเท้าเท่ากัน แต่เป้าหมายสูงสุดของหนูคือฟาดกับลาตินสักครั้งในชีวิต ลาตินคือเป้าหมายของหนูเลย
อะไรที่ทำให้เด็กอายุ 18 คนนี้ อยากเข้ามาประกวดเวทีมิสแกรนด์ ?
-หนูเองก็...ด้วยความชอบส่วนตัวและ มีเพื่อนเป็นกะเทย เพื่อนก็เลยบอก เออ มึงมาประกวดเถอะ แล้วทีนี้ครั้งแรกที่ใส่ส้นสูงใส่ไม่ได้ ใส่แล้วล้ม อยากให้เห็นครั้งแรกที่ใส่มาก แต่ก็ด้วยความรู้สึกเราอยากเอาชนะมัน ฉันต้องทำได้ดิ ไปนั่งดูลาตินเดินๆๆ ทำไมเขาเดินได้ เขาก็มีมือมีตีนเหมือนเรา ทำไมเขาเดินได้ดีจัง ทำไมเราเดินไม่ได้ ก็เลยฝึกๆๆๆ จนเรียนรู้ได้ว่า เออ ฝึกก็ทำได้ค่ะพี่ หนูก็เลยแบบไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้จริงๆบนโลกใบนี้แค่เราฝึก เราแค่ต้องการการฝึกแล้วก็ความชำนาญ
ภูมิใจในตัวเองมากน้อยแค่ใน ณ เวลานี้ ?
-เอาตรงๆหนูสู้ด้วยตัวเอง หนูไม่เคยเอาเรื่องอายุ ไม่เคยเอาเรื่องของความเป็นเด็กหรือความจน มาเป็น Special ที่สำคัญกว่าพี่คนอื่น หนูก็สู้ในฐานะนางงามคนหนึ่ง และหนูไม่กลัวอะไรเลยจนถึงตอนนี้ หนูรู้สึกว่า ที่หนูต้องทำต่อไปคือเป้าหมาย ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน คือหนูต้องเอามงทองไทยแลนด์ให้ได้ และหนูจะไปฟาดกับลาตินเองค่ะ
ปรายฟ้า ทองแร่ มิสแกรนด์กาฬสินธุ์
อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจมาประกวดเวทีมิสแกรนด์ครั้งนี้ ?
-ความรัก ความชอบ ความคัน โดยตัวเองเลยค่ะคุณพี่ ถึงว่ามันไม่มีใครมาหยิบเรา ไม่มีแมวมอง ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ก็คือมาด้วยใจมาด้วยตัวเองค่ะ แล้วก็ทีมซัพพอร์ตก็จะตามมาทีหลัง แฟนคลับตามมาทีหลัง ส่วนใหญ่ก็จะใช้กำลังตัวเองก่อนในเวทีแรกๆค่ะ
ปรายฟ้ามองตัวเองในการประกวดเวทีมิสแกรนด์ครั้งนี้ มองตัวเองในรูปแบบไหน ?
-หนูอ่ะจินตนาการว่าที่นี่คือที่ของหนู เพราะว่าหนูไม่น่าจะไปเวทีอื่นได้ เนื่องจากบริบทเวทีคิดว่าเข้ากับหนูที่สุดแล้วค่ะ มิสแกรนด์ แล้วก็บอสเปิดโอกาสให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองให้ถึงที่สุด ไม่ต้องปิดกั้นความเป็นตัวเอง ซึ่งหนูคิดว่ามิสแกรนด์คือความบันเทิง แล้วหนูก็คือความบันเทิง ความสนุก ที่นี่คือที่ของหนูหนูมาด้วยตัวเองค่ะ
-จริงๆหนูจินตนาการค่ะคุณแม่ หนูจินตนาการตัวเองใส่มงทอง นั่งพับเพียบรับมงจากพี่อิงฟ้า หนูจินตนาการว่าตัวเองอ่ะจับมือ 2 คนสุดท้ายแล้วต้องจิกกล้อง หนูจินตนาการว่าถ้าเข้าไป Top 10 หนูจะตอบคำถามหนูจะพูดให้ทัชใจที่สุด จินตนาการแม้กระทั่งว่าถ้าหนูอำลาบนเวทีใหญ่จะต้องพูดอะไรบ้าง จินตนาการไปทั่วเลยค่ะ แต่ว่าจะเป็นจริงมั้ยก็อยู่ที่ความดันทุรังของหนูค่ะแม่
คิดว่าตัวเราอ่ะเดินทางมาไกลไหมกับเวทีนางงาม ณ เวลานี้ ?
-คุณแม่รู้มั้ยหนูมองคลิปตัวเองเก่าๆอ่ะ หนูนั่งร้องไห้ ร้องไห้ทำไมก็ไม่รู้อ่ะแต่มองตัวเองว่าเด็กคนนึงที่แบบเคยมาดูนางงาม เคยมาส่งนางงาม แบบมันอินมากแล้วหนูก็มองว่ามันมาไกลเหมือนกันนะคะ ที่หนูจะมาอยู่ตรงนี้ได้ จุดที่มีแฟนคลับเยอะ หนูเรียกได้เลยว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากเพราะว่าด้อมก็เต็มแล้วหนึ่งด้อม
และก็มีคนที่ซัพพอร์ตเยอะขนาดนี้ และยอดขายเราก็แบบว่าติดอันดับ Top 10 ตลอด หนูก็รู้สึกว่ามันไกลมากจริงๆที่เด็กธรรมดาคนนึงเนี่ยจะเป็นไวรัลได้ในอินเทอร์เน็ต เพราะก่อนที่หนูจะมาประกวดหนูรู้อยู่แล้วว่ามิสแกรนด์ต้องการกระแส ต้องการมหาชนด้วย หนูก็นั่งเครียดค่ะว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง แต่ด้วยความที่หนูก็เป็นของตัวเองอย่างนี้ล่ะค่ะแม่ สังคมจะซื้อไม่ซื้อก็อยู่ที่ความเอ็นดูของสังคมด้วย ก็ประสบความสำเร็จในระดับนึงค่ะ แต่จะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ถ้าหนูได้ใส่มงใหญ่
วาเนสซ่า เว้งค์ สาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน มิสแกรนด์สระบุรี
อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรามาประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ในปีนี้ ?
-ซ่าเป็นคนที่ชอบดูนางงามอยู่แล้วนะคะ ตอนแรกซ่าเรียนอยู่ที่เยอรมันแล้วปิดเทอมจะขึ้นมหาวิทยาลัยที่เยอรมัน แล้วทีนี้ปิดเทอมพอดีกลับมาเมืองไทยแม่ก็เลยบอกว่า สระบุรีเนี่ยเขาเปิดพอดีนะ ซ่าก็เลยโอเคมาสระบุรีก็ได้ ตามแพลนเดิมแล้วคือจะเรียนให้จบ ป.ตรีก่อน แล้วค่อยไปประกวดค่ะ
แต่ในเมื่อมาแล้วซ่าก็เลยคุยกับแม่ว่า เนี่ยแค่ที่เดียวนะ แล้วถ้าหนูไม่มงเนี่ยก็ทำตามแพลนเดิมคือกลับไปเรียนให้จบ ป.ตรี แล้วค่อยประกวด แต่ว่าพอมงแล้วก็เลยตัดสินใจดรอปที่เยอรมันเพื่อจะอยู่เมืองไทยค่ะ แล้ววางแผนไว้ว่าถ้าเขา Top 10 ก็เรียนที่ธรรมศาสตร์ค่ะ แต่ถ้าไม่เข้าก็จะกลับไปเรียนต่อที่เยอรมันค่ะ
เรามองเป้าหมายในการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ปีนี้ยังไงบ้าง ?
-ก็พูดตรงๆว่ามาไกลมากมองมงไว้เลยนะคะ แต่ถ้ามันไม่ถึงก็ขอให้ได้ไปไกลที่สุดนะคะ
เวทีแรกกับการเป็นมิสแกรนด์สระบุรี แล้วได้เป็นตัวแทนขึ้นมาประกวดบนเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เรามองว่าเราอ่ะเดินทางมาไกลในเส้นทางการเป็นนางงาม ?
-คิดว่ามาไกลมากเลยนะคะ เพราะพูดตรงๆว่านี่คือการเดินทางครั้งแรกในเส้นทางนางงามในแบบผู้ใหญ่นะคะ เพราะว่าซ่าเคยประกวดมิสทีนไทยแลนด์มา แต่อันนี้แกรนด์มันจะเข้มข้นกว่า ซึ่งซ่ามองว่าซ่ามาไกลมากกว่าครั้งแรกเลยนะคะ แล้วซ่าก็ถามว่าหวังมงมั้ย หวังแน่นอนค่ะ มาไกลมาก แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆซ่าก็ไม่เสียใจเพราะว่าซ่าทำเต็มที่ที่สุดแล้ว อาจจะไม่ใช่ปีของซ่าก็ได้ค่ะ แต่ทำให้เต็มที่ที่สุดนะคะ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงซ่าก็ยอมรับมันนะคะ
แล้วเราเป็นอีกคนนึงที่มีแรงซัพพอร์ต แรงเชียร์เยอะมาก อยากจะขอบคุณอะไรพวกเขาไหม ด้อม และก็แรงสนับสนุนต่างๆ ?
-ก็ขอขอบคุณอันดับแรกเลยคือทีมสระบุรีนะคะที่เลือกซ่ามา และก็ขอขอบคุณครอบครัวนะคะ พ่อแม่พี่น้อง แล้วก็พี่ฟี ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่เลือกหนูมา ให้โอกาสหนู พูดตรงๆเลยว่าสิ่งนี้เปลี่ยนชีวิตหนูมากเปลี่ยนแบบเปลี่ยนเป็นคนละคนนะคะ จากผู้ติดตาม 2 พันกลายเป็น 3 หมื่นกว่าแล้วนะคะ ดีใจมาก
แล้วก็ขอขอบคุณที่ทำให้หนูมีชื่อเสียงและต้องขอขอบคุณทุกคนที่รักและเอ็นดูหนูนะคะ แฟนคลับทุกคน ชาวด้อม ขอบคุณมากที่ช่วยกันโหวตให้หนูปาสลิปกันใหญ่เลย ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะ ขอบคุณทุกแรงซัพพอร์ต แล้วก็ไม่ว่าจะเป็นทางใจหรือไม่ก็ทางวัตถุอะไรก็ตาม ขอบคุณทุกคนมากจริงๆนะคะ รักทุกคนมากๆเลยถึงแม้ว่าซ่าจะไม่ได้รู้จักชื่อทุกคน แต่ว่าอยากให้ทุกคนรู้ว่าซ่ารักทุกคนเลยนะคะ
