เหตุสลด! สองพี่น้องจมน้ำดับ ขณะแคมป์ปิ้งที่ จ.นครนายก

29 เม.ย. 66

เหตุสลด! สองพี่น้องวัย 12 และ 16 ปีจมน้ำดับ ขณะแคมป์ปิ้งที่ จ.นครนายก ชาวบ้านเผยน้ำพัดจมหาย ใช้เวลาค้นหากว่า 10 นาที ช่วยไว้ไม่ทัน

29 เม.ย.2566 เมื่อเวลา 13.00 น. ศูนย์กู้ชีพได้รับแจ้งเหตุมีนักท่องเที่ยวสูญหายในน้ำ 2 ราย ที่สถานที่ท่องเที่ยวแคมป์ปิ้ง ในพื้นที่ ม.5 ซอยวังหิน ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก เมื่อถึงที่เกิดเหตุห่างจากแคมป์ปิ้งไม่มากนัก พบร่างนายวีรวงศ์ สงวนนามสกุล อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม. 5 ชาวตำบลนครนายก อำเภอเมืองนครนายก และเด็กชายมนัสวีร์ สงวนนามสกุลอายุ 12 ปี  นักเรียนชั้นม.1  ชาวตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ (เป็นลูกพี่ลูกน้องญาติกัน) สภาพหมดสติ ปากและร่างกายซีด สวมกางเกงขาสั้นทั้งสองคน ชาวบ้านและญาติกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจ จากนั้นกู้ภัยได้ติดตั้งเครื่อง AED และทำการกู้ชีพ แต่ไม่เป็นผล เด็กชายทั้งสองคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เนื่องจากสูญหายในน้ำนานกว่า 10 นาที  จากการบอกเล่าของญาติและชาวบ้านที่ช่วยชีวิต

จมน้ำ

นายพิสิท สงวนนามสกุล อายุ 38 ปี น้าชาย  บอกว่า ตนและญาติ 10 กว่าคน เดินทางมาจากจังหวัดบุรีรัมย์มาเที่ยวกางเต็นท์ที่แคมป์ปิ้งแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลสาริกา โดยก่อนเกิดเหตุตนและญาติๆ พึ่งมาถึงและพึ่งกางเต็นท์เสร็จ จากนั้นปล่อยให้หลานๆ ได้ลงเล่นน้ำซึ่งมากัน 3 คนพี่น้องโดยไม่ได้ใส่ชูชีพ และมีกลุ่มเด็กเล็กอยู่อีกฝั่ง โดยเล่นลักษณะไหลตามน้ำ ไม่นานน้องคนกลาง วิ่งมาบอกตนกว่าพี่ชายและน้องชายโดยน้ำพลัดไหลตามกระแสน้ำไป จากนั้นตนได้รีบวิ่งมาที่เกิดเหตุใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที

นายสำรวย สงวนนามสกุล อายุ 58 ปี และภรรยา เล่าว่า ชาวบ้านในพื้นที่ที่ลงไปช่วยเด็กทั้งสองคนที่ประสบเหตุ  บอกว่า ตอนนั้นตนกำลังสอยผลไม้ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบไปช่วย แต่ตนนั้นว่ายน้ำไม่เป็นอีกทั้งน้ำในแม่น้ำลึก โดยเด็กทั้งสองคนไหลมาตามกระแสน้ำจากแคมป์ปิ้งที่อยู่ไม่ห่างกัน จากนั้นชาวบ้านที่ว่ายน้ำได้กระโดดลงไปและค้นหากว่า 10 นาที ก็พบร่างเด็กทั้งสองคนที่อยู่ห่างกันประมาณ 2 เมตร ใต้น้ำและได้นำขึ้นมาบนฝั่งและได้ทำการปั๊มหัวใจ

พนักงานแคมป์ปิ้ง บอกว่า ที่แคมป์ปิ้งมีชูชีพบริการให้นักท่องเที่ยวฟรี แต่ใช้แล้วต้องเอามาคืน ตอนเกิดเหตุตนได้ยินญาติของน้องทั้งสองร้องขอความช่วยเหลือว่ามีเด็กจมน้ำ ตนจึงรีบวิ่งและลงน้ำลอยไปยังจุดที่เห็นน้องทั้งสองคน โดยเอาชูชีพไปด้วย 2 ตัว แต่น้องทั้งคนก็จมแล้ว ส่วนก่อนหน้านั้นน้องทั้งสองคนและอีก 1 คนที่รอดชีวิต ไม่สวมชู้ชีพทั้งที่ทางแคมป์มีบริการให้ใส่

ด้านนายสุรัตน์ สงวนนามสกุล เจ้าของแคมป์ปิ้ง บอกว่า ที่แคมป์ปิ้งมาตราการรักษาความปลอดภัย และมีการบอกเตือนนักท่องเที่ยวให้สวมเสื้อชูชีพที่ทางแคมป์ปิ้งจัดบริการไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ส่วมใส่ฟรี แต่กรณีลูกค้าไม่ยอมสวมใส่ชูชีพขณะลงเล่นน้ำ ซึ่งก็ได้มีการเตือนนักท่องเที่ยวว่ากระน้ำแรงให้สวมใส่ชู้ชีพแต่ไม่เชื่อฟัง ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากันเป็นกลุ่มใหญ่กว่า 20 คน

 

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส