วันที่ 2 ก.ย. 62 นายไกรสร กองกลาด ผวจ.กาฬสินธุ์, นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์, พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.รมน.กาฬสินธุ์, นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ปลัด จ.กาฬสินธุ์, นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์, นายโสภณ เจริญพร หัวหน้าสนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมนำกำลังทหารกองพันทหารม้าที่ 14 และ 21 กองพลทหารม้าที่ 3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อส. และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ กว่า 300 คน เข้าบรรจุกระสอบทราย ขนย้ายไปกั้นน้ำตามจุดต่าง ๆ ริมฝั่งแม่น้ำปาว ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากมีฝนตกซ้ำลงมาในพื้นที่
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ภาย หลังจากได้รับผลกระทบจากพายุโพดุล ขณะนี้มีพายุฝนตกลงมาในพื้นที่อีกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนยังคงมีน้ำเกินระดับกักเก็บอีกกว่า 6 แสน ลบ.ม. และยังคงล้นระบายลงมาในพื้นที่ อีกทั้งระดับแม่น้ำชีหนุนสูง ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำปาวตลอดสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 2-4 ก.ย. 62 ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำปาวเพิ่มสูงขึ้นอีกและล้นตลิ่ง เสี่ยงที่จะเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน และพื้นที่เขตเศรษฐกิจในตัวเมืองกาฬสินธุ์ ในช่วง 1-2 วันนี้ จึงได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยส่วนหน้า จ.กาฬสินธุ์ ที่วัดสว่างคงคา เพื่อบัญชาการเหตุการณ์ พร้อมระดมกำลังทุกภาคส่วนในการบรรจุทราย เพื่อนำกระสอบทรายไปช่วยเหลือกั้นทางน้ำไหลให้เข้าสู่บ้านเรือนประชาชน
โดยในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์จะมีประชาชนที่ถูกน้ำท่วมขัง 21 ชุมชน ได้รับความเดือดร้อน 1, 500 ครัวเรือน โดยมีน้ำท่วมหนักในพื้นที่ 13 ชุมชนแล้ว ยังกระทบ 5 อำเภอ ได้แก่ เมืองกาฬสินธุ์ กมลาไสย ฆ้องชัย ร่องคำ และยางตลาด ดังนั้นจึงได้ประกาศเตือน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังที่อาศัยอยู่พื้นที่ต่ำริมฝั่งลำน้ำปาวและแม่น้ำชี และเตรียมรับมือสถานการณ์เคลื่อนย้ายสิ่งของไว้ที่สูงและเตรียมอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย
โดยทางจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุกทกภัยส่วนหน้า จ.กาฬสินธุ์ ที่วัดสว่างคงคา ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการและจุดรับการสนับสนุนกำลังพล การบริจาคสิ่งของ และเป็นที่พักอาศัยของผู้ประสบภัย พร้อมกับประกาศเตือนให้ประชาชนในเขตชุมชนเศรษฐกิจ และประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำปาวและแม่น้ำชีขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและเตรียมอพยพย้ายไปอยู่สถานที่ปลอดภัย