ตำรวจกองปราบ รวบอดีตพระอาจารย์คม ยักยอกเงินทำบุญวัดกว่า 180 ล้าน โอนเข้าบัญชีน้องสาว

6 พ.ค. 66

กองปราบปราม รวบอดีตพระอาจารย์คม ยักยอกเงินบริจาคร่วมทำบุญวัดกว่า 180 ล้าน เข้าบัญชีน้องสาว แถมระหว่างถือสมณเพศมีการเสพเมถุนภายในกุฏิของวัดอีกด้วย

วันนี้ (6 พ.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บัญชาการกองบังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป. นายอินทพร จั่นเอี่ยม รอง ผอ.รักษาราชการแทน ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกันแถลงผลการจับกุม อดีตพระอาจารย์ชื่อดังยักยอกเงินวัดกว่า 180 ล้านบาท ประกอบด้วยผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายคม คงแก้ว หรือ พระอาจารย์คม อภิวโร อายุ 39 ปี นาย วุฒิมา หรือพระหมอ เถาว์หมอ อายุ 38 ปี และ น.ส.จุฑาทิพย์ ภูบดีวโรชุพันธุ์ อายุ 35 ปี

345210050_2253040734880932_61

ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 64-66 /2566 ตามลำดับ ลงวันที่ 6 พ.ค.66 ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต ,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ รับของโจร” โดยจับกุมตัว นายคม ได้ในพื้นที่ กทม. ส่วน นายวุฒิมา จับกุมได้ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ขณะที่ น.ส.จุฑาทิพย์ จับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.นนทบุรี

345211764_755258246146987_494

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับการประสานจาก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ พระอาจารย์คม ประธานฝ่ายสงฆ์ของวัดป่าธรรมคีรี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังสงสัยว่ามีการทุจริตเงินวัด จึงจัดกำลังพื้นที่สืบสวนตรวจสอบภายในวัด จนพบว่า พระอาจารย์คม ซึ่งเป็นพระผู้ดูแลการใช้จ่ายเงินต่างๆ ของวัดรวมถึงเงินที่ญาติโยมมีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ ได้ร่วมกับ พระหมอ เจ้าอาวาสวัดนำเงินของวัดไปใช้จ่ายส่วนตัว รวมถึงยังนำเงินสดไปมอบให้ น.ส.จุฑาทิพย์ น้องสาวของตน เพื่อฝากเข้าบัญชีธนาคาร หรือเก็บไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบทั้งสามร่วมกันยักยอกเงินของวัดไปแล้วกว่า 180 ล้าน และคาดว่าน่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกอยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้จากการตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.จุฑาทิพย์ พบเงินสดจำนวน 51 ล้านบาท ถูกเก็บไว้ในลังโฟมและกระเป๋าเดินทาง รวมถึงพบเงินที่ถูกเก็บไว้ในบัญชีอีกกว่า 130 ล้านบาท

“ย้ำว่าตัวเลขยอดเงิน 180 ล้านบาท เป็นแค่ยอดที่ตรวจสอบพบเบื้องต้น ซึ่งอาจจะมีมากกว่านี้ แต่คงต้องรอการตรวจอย่างละเอียดสัปดาห์หน้า” ผบก.ป. กล่าว

344798385_263375842831394_557

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ขณะนี้อยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจ อยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบ ค้นหาพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ส่วนจะมีการดำเนินคดีในผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 ด้วยหรือไม่นั้น จากหลักฐานที่มีอยู่ยังไม่พบความผิดดังกล่าว ในส่วนของการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพว่าได้นำเงินของวัดออกมาจริง รวมถึงในระหว่างที่ถือสมณเพศนั้น ได้มีการเสพเมถุนภายในกุฏิของวัดซึ่งถือเป็นการอาบัติปาราชิก ตามข้อบัญญัติทางธรรมวินัยอีกส่วนหนึ่ง ทางผู้ต้องหาจึงสมัครใจที่จะลาสิกขา

345193988_194901580051329_341

ด้าน นายอินทพร กล่าวว่า สำหรับจุดเริ่มต้นของกรณีดังกล่าว ทางสำนักพระพุทธศาสนาฯ ได้รับร้องเรียนทางลับให้ตรวจสอบพฤติกรรมของอดีตพระทั้ง 2 รูป โดยพฤติกรรมแรกเกี่ยวกับการประพฤติผิดพระธรรมวินัย เสพเมถุน ส่วนพฤติกรรมที่ 2 เป็นเรื่องของการบริหารเงินไม่โปร่งใส นำเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือนำเงินวัดไปใช้ส่วนตัว ซึ่งหลังรับเรื่องจึงมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจนพบว่าทั้งคู่มีพฤติกรรมส่อไปในทางดังกล่าวจริง จึงแจ้งไปยังคณะปกครอง ก่อนท้ายที่สุดก็ยอมรับมีพฤติกรรมนั้นจริง ส่วนเรื่องยักยอกเงินวัดนั้น เป็นเรื่องของคดีอาญาจึงประสานมายังกองปราบให้ช่วยตรวจสอบจนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส