โอ้แม่สาวน้อย! แท็กซี่ใจหล่อพาหญิงเมาปลิ้นอ้วกใส่ ส่งตร.ไม่คิดลวนลาม (คลิป)

หลังจากที่โลกออนไลน์ได้แชร์ภาพรถแท็กซี่จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก "torntan loyprasert" ที่ระบุเรื่องราวลักษณะว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. เวลาตี 3 มีคนขับแท็กซี่สีเขียวเหลืองชื่อ นายศักดิ์สิทธิ์ ปริตโตทกพร ได้พาผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาญาติ เพื่อพากลับบ้าน ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อกันอย่างกว้างขวาง และชื่นชมในความดีของคนขับแท็กซี่รายนี้

วันนี้ (14 ก.ค.) ร.ต.ท.ธรณ์ธันย์ ลอยประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวน สน.โชคชัย ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตัดสินใจโพสต์ เพราะต้องการที่จะชื่นชมคนขับแท็กซี่ให้สังคมได้เห็นว่า แท็กซี่ดีๆ มีอยู่เยอะในสังคม รวมถึงคนขับแท็กซี่เป็นคนดี เรียกว่าเป็นสุภาพบุรุษ เพราะการกระทำทั้งก่อนถึงโรงพักและขณะอยู่ที่โรงพัก ไม่ได้มีความคิดหรือพฤติกรรมที่คิดร้ายต่อผู้โดยสารเลย ร.ต.ท.ธรณ์ธันย์ เผยอีกว่า หากผู้โดยสารรายนี้ไม่ได้เจอคนขับคนดังกล่าว จุดจบเรื่องนี้ก็คงไม่สวยงาม และอยากให้คนในสังคมปรับทัศนคติที่มีต่อแท็กซี่ ที่มักจะปรากฎเป็นข่าวในทางเสียหาย ทั้งที่ในความเป็นจริงมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป

ด้าน นายศักดิ์สิทธิ์ ปริตโตทกพร คนขับแท็กซี่รายดังกล่าว บอกว่า วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับผู้โดยสารคนดังกล่าวบริเวณเหม่งจ๋าย ปลายทางแถวลาดพร้าว ตอนแรกผู้โดยสารยังพูดคุยกับตนปกติ แต่เมื่อใกล้ถึงจุดหมาย พอตนหันกลับไปจะถามเส้นทาง ก็พบว่าผู้โดยสารหญิงรายนี้หลับไปแล้ว ตนจึงแกล้งพูดเสียงดังเพื่อให้ตื่น แต่ปรากฎว่าผู้โดยสารยังไม่ตื่น จึงตัดสินใจนำผู้โดยสารไปส่งที่สน.โชคชัย นายศักดิ์สิทธิ์ เผยอีกว่า ระหว่างขับไปที่สน.โชคชัย หญิงสาวมีอาการคล้ายจะอาเจียน ตนจึงจอดรถเพื่อหาถุงให้น้องและปล่อยให้อาเจียนออกมาแล้วค่อยเช็ดทำความสะอาด กระทั่งประมาณ ตี 3 จึงถึงสน.โชคชัย

คนขับแท็กซี่บอกว่า สาเหตุที่ตัดสินใจพาผู้โดยสารไปที่สถานีตำรวจ เพราะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด และการทำอาชีพแท็กซี่ เมื่อรับผู้โดยสารขึ้นรถแล้ว ก็ต้องไปส่งให้ถึงจุดหมายโดยปลอดภัย  พร้อมอยากฝากบอกไปยังผู้โดยสารทุกคนว่า อย่ามองแท็กซี่ในภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เพราะแท็กซี่ที่เป็นคนดี มีอยู่เยอะในสังคม เพียงแค่สังคมมองไม่เห็น ส่วนมาตรการที่ทางกรมขนส่งออกมาใหม่ ก็มีการคัดกรองคนขับแท็กซี่อย่างเข้มงวด ขอให้ผู้โดยสารสบายใจได้ว่าจะไม่มีแท็กซี่ที่ทำตัวไม่ดีกับผู้โดยสาร ถึงจะยังมีให้เห็น ก็เป็นเพียงร้อยละ 1 ที่การตรวจสอบคลาดเคลื่อน