บุกบ้านพันจ่าโหด เมียเผ่นหนีหวั่นโดนคดีทารุณน้องแชมป์ - แม่ซึ้งเงินช่วยร่วมล้าน (คลิป)

15 ก.ค. 60
จากกรณีที่ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ตามติดนำเสนอข่าว "น้องแชมป์" เด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ถูกอดีตพ่อเลี้ยง ทำร้ายด้วยการใช้ถุงน้ำร้อนนาบที่บริเวณหน้าท้องและต้นขา จนมีแผลฉกรรจ์ตั้งแต่หน้าท้อง อวัยวะเพศ และต้นขา ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้แบบเด็กทั่วไป โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี ได้เรียกนางปาริตา แม่น้องแชมป์ ให้เข้าไปแจ้งความใหม่อีกครั้ง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลใหม่มาว่า ภายในห้องที่มีการทำร้ายร่างกายน้อง นอกจากจะมีอดีตพ่อเลี้ยงแล้ว ยังมีแฟนของอดีตพ่อเลี้ยงอยู่ในห้องดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว: สุดทรมาน! ชีวิตหนูน้อย 5ขวบถูกน้ำร้อนนาบอัณฑะเปื่อย – ตร.จ่อเรียก”เมียพันจ่า”เอี่ยวทารุณ )
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านอดีตพ่อเลี้ยง
ล่าสุดวันนี้ (14 ก.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่อดีตพ่อเลี้ยง และแฟนใหม่ พบบ้านปิดเงียบไม่มีผู้อาศัยอยู่ โดยเพื่อนบ้านรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ทั้งสองไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ตั้งแต่เริ่มเป็นข่าว และฝ่ายชายไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน มักมีอารมณ์ร้อน ครั้งหนึ่งตนเคยเห็นฝ่ายชายทะเลาะกับแฟนจนถึงขั้นทุบรถ ขณะที่แฟนใหม่อดีตพ่อเลี้ยง คนในหมู่บ้านมักจะเห็นบ่อย และเชื่อว่าเป็นคนดี ไม่ได้อารมณ์ร้ายและไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายเด็กตามที่เป็นข่าว เพราะดูค่อนข้างที่จะรักเด็กจากที่สังเกตเวลาเจอกันในหมู่บ้าน
เพื่อนบ้านของอดีตพ่อเลี้ยงที่ทำร้ายน้องแชมป์
ทีมข่าวเข้าไปสอบถามคนละแวกใกล้เคียงหมู่บ้านที่ค้าขายและเห็นคุณแนท (แฟนใหม่อดีตพ่อเลี้ยง) และน้องแชมป์ เล่าว่า ตอนแรกคิดว่าน้องแชมป์และแนทเป็นแม่ลูกกันจริง ส่วนตัวเห็นแนทเป็นคนดี คือค่อนข้างรักน้องแชมป์ และจะพาน้องไปซื้อขนมหรือกับข้าวด้วยหลายครั้ง ส่วนตัวไม่คิดว่าแนทจะมีส่วนทำร้าย เพราะแนทเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร ซึ่งตนว่าน่าจะเป็นทางพ่อเลี้ยงที่ทำร้ายเด็กคนเดียวมากกว่า แต่แนทเองไม่กล้าห้าม เพราะเกรงจะถูกทำร้ายไปด้วย เนื่องจากฝ่ายชายเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อน
นางปาริตา แม่ของน้องแชมป์
ด้านนางปาริตา มารดาของน้องแชมป์ ที่ในวันนี้เดินทางไปที่สภ.ธัญบุรี เผยกับทีมข่าวก่อนเข้าไปสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือน้องแชมป์ ตอนแรกแม่ไม่กล้าให้เลขบัญชี เพราะกลัวคนอื่นจะมองว่าเอาลูกตัวเองมาหากิน แต่ก็มีหลายคนที่ใจดีที่อยากจะช่วยก็ขอบคุณจริงๆ ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ไม่คิดว่าตนสองคนแม่ลูกจะมีคนช่วยเหลือขนาดนี้ ในโลกนี้เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคนแล้ว เพราะขนาดคนที่ตนไว้ใจที่สุดเลี้ยงลูกยังทำร้าย คือจิตใจก็หดหู่ทั้งแม่และลูก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ