แม่ค้าส้มตำที่จังหวัดขอนแก่นอั้นไม่อยู่ เพิ่มราคาส้มตำตามจำนวนพริก หลังราคาพริกปรับขึ้นสูง ยอมรับพึ่งเจอของแพงในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น กำไรลดลงกว่าเท่าตัว
วันที่ 20 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาอาหารในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หลังราคาพริกสดและผักหลายชนิดปรับขึ้นราคาส่งผลกระทบต่อร้านจำหน่ายอาหาร โดยเฉพาะร้านส้มตำซึ่งต้องใช้พริกเป็นหัวใจหลักในการประกอบอาหาร พบว่าที่ร้านส้มตำไผ่เงิน ร้านขายส้มตำ ลาบ ก้อย ตั้งอยู่ ถ.ศรีธาตุประชาสรรค์ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้มีการปรับราคาเฉพาะเมนูส้มตำขึ้นอีก 2-3 บาท ตามจำนวนพริก เฉพาะกรณีที่ลูกค้าคนไหนที่สั่งเผ็ด แต่ถ้าลูกค้าสั่งส้มตำปกติก็จะคิดราคาจานละ 40 บาทเท่าเดิม ส่วนราคาอาหารเมนูอื่นๆ อย่าง ลาบ ก้อย ยังคงราคาปกติที่จานละ 50-60 บาท
นางฐิตาภา ศรีคาม อายุ 61 ปี เจ้าของร้านไผ่เงินเล่าว่า ตอนนี้ราคาสินค้าที่แพงขึ้นกระทบต่อทางร้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพริกจากเคยซื้อกิโลกรัมละ 80 บาท ปัจจุบันต้องซื้อที่กิโลกรัมละ 150 บาท ต้นหอมจากเคยซื้อกิโลกรัมละ 50 บาท ต้องซื้อที่กิโลกรัม 150 บาท มะละกอจากกิโลกรัมละ 10 บาทซื้อที่กิโลกรัมละ 30 บาทส่วนมะนาวจากเคยซื้อลูกละ 1 บาท ต้องซื้อที่ลูกละ 5 บาท ยอมรับว่าทุกวันนี้ต้นทุนแพงขึ้นจากเดิมมากทำให้ได้กำไรลดลงกว่าเท่าตัว จากที่เคยขายได้วันละกว่า 1 หมื่นบาท ปัจจุบันเหลือแค่ 4-5 พันบาทเท่านั้น
เจ้าของร้านไผ่เงิน บอกอีกว่าไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบ 10 ปีที่สินค้ามีราคาแพงมากถึงขนาดนี้โดยเฉพาะพริกสด เพื่อความอยู่รอดของทางร้านจึงต้องเพิ่มราคาส้มตำขึ้นอีก 2-3 บาทตามปริมาณของพริก ใครที่สั่งเผ็ดมากก็ต้องจ่ายแพงขึ้น ส่วนใครสั่งส้มตำปกติก็คิดราคาเท่าเดิมที่ครกละ 40 บาท ส่วนราคาอาหารอื่นๆ ก็คิดราคาเท่าเดิม แต่จะลดประมาณลงเพื่อจะได้กำไร ขณะที่ลูกค้าลดลงกว่าครึ่งจึงอยากวอนไปยังรัฐบาลชุดใหม่พี่จะเข้ามาบริหารประเทศให้ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะราคาสินค้าทางการเกษตรที่แพงขึ้นในขณะนี้ด้วย