จากดราม่ากรณีที่นายอลงกรณ์ กองอิน ผู้ออกแบบ “ชุดประจำชาติ ผีตาโขน Festival of Thailand” ได้รับรางวัลชนะการคัดเลือกชุดประจำชาติมิสยูนิเวิร์ส เพื่อให้
"ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 สวมใส่เป็นชุดประจำชาติ ประชันกับนางงามทั่วโลกบนเวที "มิสยูนิเวิร์ส 2019"
ซึ่งภายหลังจากที่มีการมอบรางวัลและเผยแพร่ออกมาสื่อต่างๆ น.ส.กวินทิพย์ กิตติพงษ์ หรือขนุน อายุ 23 ปี ชาวอำเภอด่านซ้าย จ.เลย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊คท้วงติงว่า นายอลงกรณ์ กองอิน ได้นำผลงานของตนไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จนกลายเป็นกระแสข่าวโด่งดัง วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในขณะนี้นั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านกวินทิพย์ ในตลาดตัวอำเภอด่านซ้าย ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับผีตาโขน ซึ่งนางสาวกวินทิพย์ หรือขนุน เปิดเผยว่า
หลังจากที่ได้เห็นภาพข่าวผลการประกวดชุดประชาติมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 เมื่อคืนนี้ก็รู้สึกเสียใจและโกรธมากจนตัวสั่น
เขาเอาผลงานที่แม่และตนเองช่วยกันใช้สมอง สติปัญญาออกแบบ และทำขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง เพื่อนำมาโชว์ที่หน้าร้านเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เขาเอาผลงานเราไปใช้โดยไม่ได้มีการขออนุญาตล่วงหน้าก่อน หรือว่าไม่มีการติดต่อมาล่วงหน้าก่อนเลยว่าจะใช้หน้ากาก ตนและแม่ไม่รู้จักกับคุณอลงกรณ์มาก่อน
“ตอนแรกที่เห็นตอนแรกหนูสั่น และตกใจแล้วก็โกรธด้วย เหมือนถูกทำร้ายความรู้สึก ซึ่งก็คือถ้าพูดจริง ๆ คือมันเป็นผลงานของร้านเรา เป็นผลงานชิ้นที่คุณแม่รักแล้วก็หวงมากที่สุดเลย ถ้าเอาไปก็ควรจะให้เครดิตหรือว่ามีการขออนุญาตล่วงหน้าบ้าง หน้ากากชิ้นนี้ทำยากมากค่ะก่อนหน้านี้เป็นไอเดียของคุณแม่ค่ะใช้ระยะเวลาในการทำทั้งหมดประมาณ 2-3 เดือน”
“หลังจากที่ตนได้โพสต์เฟซบุ๊คออกไป เวลาประมาณตีหนึ่ง คือคุณอลงกรณ์ได้ได้โทรมาทาง messenger facebook ของแม่ แล้วก็กล่าวขอโทษ พร้อมเชิญชวนให้ทางเราไปร่วมงานดีไซน์ด้วย แต่คือเราไม่ได้จะเรียกร้องหรือต้องการเช่นนั้น และก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย มีแค่อยากให้คุณอลงกรณ์รับผิดชอบมากกว่านี้ อยากให้ขอโทษด้วยลายลักษณ์อักษร คงไม่ถึงขั้นแจ้งความดำเนินคดี แต่ก็อยากขอความเป็นธรรม เพราะว่าคือชิ้นนี้มันเป็นชิ้นที่กว่าจะทำขึ้นมาได้มันไม่ควรจะไป copy paste อย่างนั้นเพราะว่า นิ้วมือของตนยังติดอยู่ในภาพ
”
"กวินทิพย์" กล่าวอีกว่า
“อยากให้ทางผู้ใหญ่หรือว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องของการเลือกชุดในครั้งนี้ หรือว่าหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมออกมารับผิดชอบต่อร้านเราด้วย เพราะว่าหน้ากากชนิดนี้เป็นหน้ากากที่เราไม่ได้จำหน่าย ตอนนี้เราไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายหรือว่าจะแจ้งความดำเนินคดี แต่เราอยากให้เขารับผิดชอบออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ ว่าสิ่งที่ทำร้านเราได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก แล้วก็ตัวหนูเองเจอกระแสที่หาว่าหนูสร้างกระแสขึ้นมา ใช่คนออกแบบจริงหรือเปล่า หรือด่าว่าเราเสีย ๆหาย ๆ หรือว่าได้บอกว่าเราไปพาดพิงถึงคุณฟ้าใส ซึ่งจริง ๆ ที่หนูโพสต์ตอนนั้นหนูต้องขอบอกว่าคือกำลังตกใจและโมโหมาก ไม่ได้ตั้งใจที่จะโพสต์ไปพาดพิงคุณฟ้าใส แต่อยากเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็มีคนที่ทางเข้าใจว่าเราจะพยายามสื่ออะไร แล้วก็คนที่ไม่เข้าใจว่าเราไปว่าคุณฟ้าใส
ก็เลยต้องอยากให้เข้าใจในประเด็นหลักของหนูก็คือ การที่ลิขสิทธิ์ของเราถูกนำไปใช้ทางเชิงพาณิชย์ แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตหรือติดต่อกลับมาก่อนค่ะ”
ส่วนทางด้าน "อลงกรณ์ กองอิน" ผู้นำเสนอผลงาน “ผีตาโขน Festival of Thailand” ได้โพสต์ขอโทษมีข้อความว่า
"ก่อนอื่นต้องขอโทษเจ้าของภาพผลงานหัวผีตาโขนที่ผมได้ทำตัดต่อกราฟฟิคมาใช้ในครั้งนี้เป็นอย่างมากที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนที่จะนำมาดัดแปลง ซึ่งเบื้องต้นนี้ผมได้ขอโทษและขอนุญาตมา ณ ตรงนี้ ขอขอบคุณที่เจ้าของผลงานที่อนุญาตแล้วหลังจากผมได้ติดต่อขอโทษและขออนุญาตด้วยตัวเองแล้ว บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่าทำอะไรให้คิดให้มากกว่านี้และภาพจากอินเตอร์เนททั่วไปที่เราเสิร์ชมาล้วนมีเจ้าของทั้งสิ้น ขอบคุณครับผมจะสร้างสรรค์งานต่อไปครับ"
ในขณะที่กองประกวดได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการประกวดออกแบบชุดประจำชาติว่า
การออกแบบประกวดชุดประจำชาติในรอบนี้ เป็นเพียงการนำเสนอแนวความคิดและแบบร่างเบื้องต้นเท่านั้น โดยผู้เข้าประกวดการออกแบบ จะแสดงออกถึงความหมายและภาพรวมของชุด โดยยังไม่มีการผลิตขึ้นเป็นชิ้นงาน และยังไม่ใช่แบบสุดท้ายในการผลิต
ซึ่งทางกองประกวดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกใช้แบบตัวอย่างในการออกแบบ
ทั้งนี้ ชุดประจำชาติไทยที่จะผลิตจริงนั้นจะต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายขั้นตอน ซึ่งจะต้องมีการพัฒนา สร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยน เพิ่มเติม หรืออาจลดทอนบางส่วน
นอกจากนี้ทางกองประกวดยังยืนยันในการตัดสินผลการประกวดดังกล่าว และขอให้ความมั่นใจว่าชุดประจำชาติซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของกองประกวดที่จะผลิตขึ้นมา จะเป็นผลงานที่ผ่านการกลั่นกรองด้วยวิธีการโปร่งใส ตรวจสอบได้ และถูกต้องที่สุด