หนุ่มราชการไม่อยากอยู่ในกรอบตัดสินใจ ลาออกจากงาน ตั้งขบวนแห่นั่งหลังช้างระยะทาง 9 กิโลเมตร กลับบ้านมาทำเกษตรผสมผสานปลูกผักขาย
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 66 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่าที่องค์การบริหารส่วนตำบลจารพัตอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ มีพนักงานราชการในตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไป ได้ออกจากงานเพื่อที่จะไปประกอบธุรกิจการเกษตรปลูกผักอีนูนขาย ได้มีการจัดขบวนแห่ช้าง 2 เชือก พร้อมนั่งช้างเปิดเพลงรถแห่กลับบ้านระยะทาง 9 กิโลเมตร มีเพื่อนร่วมงานและญาติพี่น้องมาร่วมขบวนแห่อย่างคึกคัก
บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความยินดีจากเพื่อนร่วมงานและญาติพี่น้องที่มาร่วมขบวนแห่ โดยจะมีการทำพิธีเซ่นไหว้ศาลตายาย มีหัวหมู ผลไม้ อาหารคาวหวาน และน้ำ หลังจากนั้นก็ได้มีการขึ้นนั่งบนหลังช้างทั้ง 2 เชือก พร้อมญาติพี่น้องมีรถแห่เปิดเพลงตลอดเส้นทาง เคลื่อนขบวนไปตามถนนไปยังที่บ้าน ในระหว่างที่ช้างผ่านหมู่บ้าน ต่างก็มีชาวบ้านจำนวนมากรอต้อนรับและให้กำลังใจ รอชมช้างและขบวนแห่ มีการเตรียมน้ำและอาหารไว้สำหรับให้ช้างกินบริเวณหน้าบ้านอีกด้วย
การลาออกพร้อมจัดขบวนแห่นั้งช้างกลับบ้านสร้างความตื่นตาให้กับชาวบ้านที่พบเห็น ต่างก็พากันเอามือถือมาถ่ายรูปไว้ ตลอดระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ขบวนแห่ก็มาถึงบริเวณบ้าน ญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานก็ได้มีการผูกแขนเพื่อรับขวัญกำลังใจ พร้อมกับมีงานเลี้ยงในตอนเย็น ส่วนช้างเมื่อมาถึงบริเวณบ้านก็จะมีการแสดงเต้นโชว์ให้กับแขกที่มาร่วมงานได้รับชม พร้อมรับรางวัลๆ
นายพุฒิพงษ์ อายุ 46 ปี เปิดเผยว่า รับราชการมา 17 ปี ในตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไป องค์การบริหารส่วนตำบลจารพัต ได้เล่าให้ฟังว่าที่ได้ออกจากราชการเพราะ ไม่อยากทำงานที่อยู่ในกรอบ อยากที่จะทำงานอิสระ มุ่งสู่สายสีเขียวทำเกษตร ที่ได้มีการนำช้างมาแห่ในขบวนเพราะ ช้างเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสุรินทร์ เป็นสัตว์มงคล สร้างความรักความสามัคคีในหมู่คณะและชาวบ้านมีความรักใคร่กัน
ตนได้วางแผนอนาคต คือจะมาทำเกษตรผสมผสานปลูกผักสาบหรือผักอีนูน ขาย เนื่องจากเป็นผักที่หาได้ยาก ตลาดมีความต้องการสูง สามารถที่จะสร้างรายได้หลักล้านต่อปี
