หมอโพสต์ เตือนคนที่คันจุดลับมากๆ อาจเป็นสาเหตุมาจากมี "โลน" ดูดเลือดเกาะอยู่ มักพบบ่อยที่อวัยวะเพศ เพราะมีอุณหภูมิเหมาะสม
วันที่ 19 มิ.ย. 2566 ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ หมอแล็บแพนด้า เตือนทั้งสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่มีอาการคันในจุดซ่อนเร้นมา ให้ลองสังเกตตัวเองอาจเจอเจ้า "โลน" สาเหตุของอาการคันติดอยู่
โดยชาวเน็ตส่งคำถามเข้ามาว่า "หนูมีเรื่องสอบถามค่ะ หนูเจอตัวแบบนี้ในร่างกายของเรา มันเรียกว่าตัวอะไรหรอคะ แล้วจะกำจัดมันยังไงคะ" และ หมอแล็บได้ตอบข้อความว่า อันนี้คือตัว "โลน" นะครับ ถ้าใครคันที่อวัยวะเพศ หรือคันมอยส์มากกกก ให้ลองก้มดูซิครับ ต๊ะเอ๋!!! เจอมั้ย ตัวโลนมันจะหน้าตาแบบนี้เลย ดีที่ยุคนี้กล้องมือถือซูมถ่ายภาพได้ชัดแจ๋ว โลนมันดูดเลือดเรากินเป็นอาหาร ซึ่งในน้ำลายของโลนเองมีสารบางอย่างที่ทำให้คันและระคายเคือง เราก็เลยคันมาก
ตัวโลนมันจะเล็กๆประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มีขา 3 คู่ ที่ปลายขาจะคล้ายๆขาปู ขาเคียวเหนี่ยวเก่ง เอาไว้เกี่ยวเส้นขนเพราะโลนจะชอบอาศัยอยู่ตามขนของร่างกาย แต่จุดที่พบโลนบ่อยที่สุดก็คือที่อวัยวะเพศนั่นเอง เพราะมีอุณหภูมิเหมาะสม โลนชอบ
แต่บางทีมือของเราอาจจะไปเกาอวัยวะเพศ ตัวโลนมันก็เลยเกาะมือมาด้วย แล้วไปติดตามขนรักแร้ ขนหน้าอก หนวดเครา ขนคิ้ว ขนตาก็เจอบ่อย
ตัวโลนมีทั้งตัวผู้ตัวเมียครับ พอมันผสมพันธุ์กันแล้ว ตัวเมียจะวางไข่บนเส้นขน โลนตัวเมีย 1 ตัว วางไข่ได้ประมาณ 30 ฟอง 7 วันต่อมา ไข่จะฟักออกมาเป็นตัวอ่อน และ 3 สัปดาห์ มันก็โตพร้อมที่จะผสมพันธุ์กันต่อไป
โลนติดต่อกันได้ 2 ทาง คือ
2. ติดต่อจากการใช้ของใช้ร่วมกัน หากใครในบ้านเป็นโลน แล้วเราไม่รู้ จู่ๆก็อยากใช้ผ้าเช็ดตัวของคนอื่น ใส่เสื้อผ้าคนอื่น นั่งบนโถส้วมที่มีตัวโลนเกาะอยู่ หรือนอนบนเตียงที่มีโลน มันก็สามารถติดต่อมาที่เราได้เช่นกัน
ใครเจอตัวโลนหน้าตาแบบนี้ ลองไปปรึกษาเภสัชกรเรื่องยาฆ่าโลน หรือรีบไปหาหมอนะคร้าบ รักษาได้ อ่อ แต่เวลารักษา ต้องรักษาคู่นอนของเราด้วยนะครับ ไม่งั้นเวลาโบ๊ะบ๊ะกัน โลนมันก็ติดกันได้อีกยังไงล่ะครับ