ครอบครัวเผยภาพ "เอส กันตพงศ์" ฟื้นแล้วมีรอยยิ้มสดใส

22 มิ.ย. 66

ปาฏิหาริย์มีจริง ! ครอบครัว "เอส กันตพงศ์" เผยภาพพระเอกหนุ่มล่าสุดฟื้นแล้วมีรอยยิ้มสดใส อาการโดยรวมไม่มีภาวะวิกฤติใดๆ แต่ห่วง 3 อวัยวะคือ หัวใจ ไต สมอง ยังต้องประเมินและติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด

โดยล่าสุดวันนี้ 22 มิ.ย. 2566  "คริสติน่า" ภรรยา "เอส กันตพงศ์" จัดโต๊ะแถลงอัปเดตอาการสามี พร้อมด้วย นายแพทย์ อชิรวินทร์ จิรกมลชัยสิริ แพทย์ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ สถาบันโรคหัวใจ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

ด้านแพทย์ เผยว่า นับตั้งแต่ผู้ป่วยย้ายมาที่รพ. วันที่ 11 พ.ค. ทีมแพทย์เฉพาะทางหลายสาขา ได้ตรวจวินิจฉัยและรักษา สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดของ "เอส กันตพงศ์" คือ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสษเฉียบพลัน ซึ่งเป็นขั้นรุนแรง เป็นสาเหตุให้หัวใจหยุดเต้น

ที่ผ่านมาได้ใส่เครื่องพยุงชีพ เครื่องช่วยหายใจ และอยู่ในภาวะวิกฤต เริ่มรักษาให้ยาและเริ่มมีการตอบสนองที่ดีขึ้น จนสามารถค่อยๆ ลดการใช้เครื่องช่วยหายใจและเครื่องพยุงชีพ การทำงานของหัวใจเริ่มกลับมาเกือบปกติ

ทั้งนี้ ระบบไหลเวียนโลหิตมีการหยุดทำงานไประยะหนึ่ง ทำให้ไตและสมองมีความเสียหายไปด้วย แต่วันนี้ไตกลับมาทำงานได้แล้ว ต้องฟอกไต จนสามารถกลับมาปัสสาวะได้เองแล้ว ส่วนสมองเริ่มมีภาวะการรับรู้ และดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังต้องทำกายภาพต่อไป อ้างอิงข้อมูลผู้ป่วยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.

เมื่อถามว่า อาการกลับมากี่เปอร์เซ็นต์ แพทย์เผยว่า "ตื่นและรับรู้ สามารถสื่อสารง่ายๆ ได้"

ด้าน "เอ ศุภชัย" เล่าว่าตอนมาเยี่ยม เอส จำได้ว่าคือพี่เอ มีการรับรู้ แต่ความจำยังไม่สมบูรณ์

แพทย์ กล่าวเสริมว่า "อาการโดยรวมไม่มีภาวะวิกฤติใดๆ หลงเหลือในตัวคนไข้แล้ว แต่ห่วง 3 อวัยวะคือ หัวใจ ไต สมอง ยังต้องประเมินและติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด แนวทางการรักษา คือการฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการที่หยุดหายใจ"

สำหรับ "คริสติน่า" ภรรยา "เอส กันตพงศ์" เผยวินาทีสามีลืมตาขึ้นมาครั้งแรก ตอนที่ฟื้นขึ้นมาอยู่ในภาวะสับสน ยังคิดว่าตัวเองยังอยู่ในงานอีเวนต์ ซึ่งประโยคแรกที่ "คริสติน่า" พูดกับสามีประโยคแรกคือ "ที่รัก เราอยู่ตรงนี้นะ"ซึ่งตอนที่ตื่นขึ้นมาก็ยังจำไม่ได้ แต่ ณวันนี้จำได้แล้ว ขณะที่ลูกสาว ยากที่จะเข้าใจว่าพ่อป่วยเป็นอะไร ก็คิดถึงการได้กลับไปวิ่งเล่นกับพ่อ

เอส กันตพงศ์

เอส กันตพงศ์

เอส กันตพงศ์

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส