วันนี้ (24 พ.ย.) พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ น.ส.นลิน เสร็จสิ้นแล้ว ในเบื้องต้นยังให้การภาคเสธ ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่ยืนยันว่าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม ขณะที่วันนี้จะสอบปากคำ นางจารุวรรณ อดีตภรรยาของ นพ.บุญ เพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ขอพักระหว่างการสอบปากคำอยู่หลายครั้ง เพราะต้องทานอาหารและทานยารักษาโรคประจำตัว ทำให้การสอบสวนไม่ต่อเนื่องและยังไม่ครบถ้วน
ส่วน นพ.บุญ จากการให้ข้อมูลของนางจารุวรรณ ว่า ขณะนี้ นพ.บุญ อยู่ที่ประเทศจีน พนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องไปที่กองการต่างประเทศ เพื่อยื่นขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง ตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว เนื่องจาก นพ.บุญ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งยังมีข้อหาตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน และ พ.ร.บ.เช็ค อีกด้วย
คดีนี้มีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความในสถานีตำรวจนครบาล เฉพาะในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 รวม 247 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาทแล้ว ซึ่งจากข้อมูลยังพบว่า มีผู้เสียหายในพื้นที่อื่นๆ อีกด้วย หลังจากนี้จะประชุมหารือร่วมกับผู้บังคับบัญชา ว่า จะมีแนวทางในการรับแจ้งความหรือรวบรวมผู้เสียหายอย่างไร แต่ในขณะนี้ประชาชนผู้ที่เสียหายจากการร่วมลงทุนกับ นพ.บุญ สามารถแจ้งความได้ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่
ขณะที่ คนขับรถของนางจารุวรรณ ได้นำอาหารมาให้ถูกบรรจุในปิ่นโต ที่ สน.พญาไท ในมื้อเที่ยง ภายหลังยังถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ ฐานะผู้ต้องหาตามหมายจับเกี่ยวกับการฉ้อโกง และข้อหาอื่น ๆ โดยให้ข้อมูลว่า นางจารุวรรณ ไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ที่นำมาเป็นเพียงอาหารทั่วไปเท่านั้น
คนขับรถ กล่าวว่า ได้ทำงานอยู่ภายในบ้านของ น.ส.จารุวรรณ พร้อมด้วย นพ.บุญ มาประมาณ 5 ปีแล้ว ส่วนตัวไม่คิดว่า นางจารุวรรณ จะมีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันยังยอมว่า ล่าสุดได้พบกับ นพ.บุญมาที่บ้าน เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สำหรับประเด็นที่คนในบ้านถูกดำเนินคดี ส่วนตัวไม่ทราบเรื่อง หรือการดำเนินธุรกิจของครอบครัวนี้ และขอไม่กล่าวถึงเพราะตัวเองทำหน้าที่เป็นคนงานในบ้านเท่านั้น
โดยตำรวจจะควบคุมตัวทั้ง 2 คน ขออำนาจศาลฝากขังในช่วงเช้าของพรุ่งนี้ (25 พ.ย.)
Advertisement