ทนายเดชา ยัน! "แอม ไซยาไนด์" ที่แท้งลูก หากศาลพิพากษาว่า ผิดจริง ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองด้วยการวางยาพิษนั้น เตรียมรับโทษประหารได้ทันที ไม่มีเงื่อนไข เพราะไม่มีบุตรในครรภ์แล้ว
จากรณีที่นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากทัณฑสถานหญิงกลางว่า ข.ญ.สรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ คดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งตั้งครรภ์ได้ 26 สัปดาห์ เมื่อมีการตรวจสุขภาพครรภ์ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 พบความผิดปกติเนื่องจากไม่พบการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ จึงส่งตัวเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2566 แพทย์ได้ให้การรักษาโดยการผ่าตัดทารกในครรภ์ซึ่งเสียชีวิต และมีภาวะครรภ์เป็นพิษและในวันที่ 23 มิถุนายน 2566 แพทย์พิจารณาส่งตัวมาสังเกตอาการ รักษาต่อเนื่องหลังการผ่าตัด ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานหญิงกลางได้ควบคุมตัวออกจากโรงพยาบาลตำรวจ
ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้รับตัว ข.ญ.สรารัตน์ ไว้เป็นที่เรียบร้อย อาการโดยรวมรู้สึกตัวดี ให้ความร่วมมือถามตอบได้ตามปกติ มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อยหลังการผ่าตัด สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ แพทย์พิจารณาให้การรักษาต่อเนื่องโดยการฉีดยาปฏิชีวนะและติดตามอาการทางคลินิกใกล้ชิดโดยทีมสหวิชาชีพ
จากกรณีนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ได้สอบถามความเห็นจากนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า จากที่ตนเองทราบเรื่องนั้น แอม ไซยาไนด์ แท้งบุตรแล้ว เท่ากับว่าหากศาลชี้ชัดว่า แอม ไซยาไนด์ มีความผิดจริง ฐานฆ่าคนตาย โดยไตร่ตรองไว้ก่อนด้วยการวางยาพิษ นั้นถือว่าสามารถประหารชีวิตได้เลย เนื่องจากไม่มีอุปสรรคใดๆ ต่อไปแล้ว ไม่ต้องถกเถียงเรื่องผู้ต้องหาตั้งครรภ์ประหารไม่ได้ ต้องเลี้ยงลูก 2-3 ปี นั้น ไม่มีเงื่อนไขนี้อีกแล้ว
อีกทั้งคดีนี้ ถ้าในภายภาคหน้า “แอม” มีความผิดตามศาลพิพากษา ว่าผิดจริงนั้นก็สามารถรับโทษสูงสุดประการชีวิต ได้ทันที หากจะมาอ้างว่ากำลังรับการรักษาในภายหลัง เรื่องสุขภาพไม่แข็งหรือใดๆ นั้น ต้องรักษาก่อน ตนยืนยันว่าไม่มีเงื่อนไขใดมาชะลอได้แล้ว กฎหมายแค่บัญญัติไว้ว่า ห้ามประหารชีวิตผู้ต้องหาที่ตั้งครรภ์ แต่ตอนนี้แท้งแล้วเท่ากับหมดเงื่อนไขในการเว้นโทษดังกล่าว