SHINee (ชายนี่) กลับมาอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในอัลบั้มเต็มชุดที่ 8 'HARD' (ฮาร์ด) พร้อมถ่ายทอดเสียงร้องหลากหลายเสน่ห์ ผ่านแนวเพลงต่าง ๆ ทั้งหมด 10 เพลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มใหม่ในรอบ 2 ปี 2 เดือนของ SHINee หลังจากรีแพ็กเกจอัลบั้มเต็มชุดที่ 7 'Atlantis' ที่ปล่อยในเดือนเมษายน 2564 อีกทั้งยังเป็นการเปิดบทใหม่ของ SHINee วงที่ครบรอบเดบิวต์ 15 ปี ในปี 2566 นี้
ก่อนหน้านี้ SHINee ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องของโลกดนตรีที่ทันสมัยและไม่เหมือนใคร รวมถึงทักษะการแสดงที่โดดเด่น ผ่านการทำกิจกรรมโปรโมตแบบกลุ่มและเดี่ยว พร้อมครองสถานะอย่างมั่นคง ในฐานะ 'K-pop Edge' ที่ไม่มีใครแทนได้ ซึ่งพวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถรอบด้าน เช่น วาไรตี้, การแสดง, ละครเวที, พิธีกร และอื่น ๆ ทำให้แฟนคลับทั่วโลกยิ่งตั้งตารอการทำกิจกรรมโปรโมตในปีนี้ และ ‘ความเป็น SHINee’ แบบใหม่ที่พวกเขานำเสนอออกมาในอัลบั้มชุดนี้
สำหรับอัลบั้มเต็มชุดที่ 8 ของ SHINee มีเพลงไตเติลที่ใช้ชื่อเดียวกับอัลบั้มว่า 'HARD' (ฮาร์ด) ซึ่งเป็นเพลงไฮบริดฮิปฮอปแดนซ์ ที่ผสมผสานแนวเพลงอย่างบูมบัพ อาร์แอนด์บี และฮิปฮอปยุค 90 เข้าไว้ด้วยกัน ด้านเนื้อเพลงที่มีวลีติดปาก ‘We Go Hard’ สื่อถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของ SHINee ในเรื่องเพลง และความแน่วแน่ที่จะบอกออกไปว่า ‘Young & Wild’ ตลอดไป ซึ่งการแสดงของเพลงนี้ ก็นำเสนอความสร้างสรรค์ตามสไตล์ของ SHINee ออกมาอย่างโดดเด่น ด้วยการผสมผสานอารมณ์ฮิปฮอปแบบยุค 90 เข้ากับเสน่ห์ที่ทันสมัย โดยท่าเต้นในท่อนคอรัส จะมีจังหวะการ Bounce ที่ทุกคนสามารถเต้นตามได้ง่าย รวมถึงถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละสมาชิก และความรู้สึกที่หลากหลาย ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกในการรับชมมากขึ้น
นอกจากนี้ ในอัลบั้มยังมีเพลงอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงสีสันทางดนตรีตามแบบฉบับของ SHINee ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนว DnB อย่าง ‘The Feeling’ ที่พวกเขาปล่อยออกมาล่วงหน้าเป็นซิงเกิล Pre-release และเตรียมมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ไว้ให้เป็นของขวัญสุดพิเศษสำหรับแฟนคลับ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบเดบิวต์ 15 ปี, ‘JUICE’ เพลงฮิปฮอป แดนซ์ High tempo, ‘10X’ เพลงที่ผสมผสานหลากหลายเครื่องกระทบเข้าจังหวะ, ‘Satellite’ เพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ป๊อป, ‘Identity’ เพลงแดนซ์แนว Up tempo, ‘Like It’ เพลงแดนซ์ ป๊อปที่มีไลน์แนวซินธ์ของคอร์ด A Major ซ้ำไปมา, ‘Sweet Misery’ เพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ป๊อป, ‘Insomnia’ เพลงแนวอาร์แอนด์บี ฮิปฮอป และ ‘Gravity’ เพลงแนวอาร์แอนด์บี Medium tempo
ทั้งนี้ SHINee ประสบความสำเร็จกับการจัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่หก ‘SHINee WORLD VI [PERFECT ILLUMINATION]’ ทั้งหมด 3 รอบการแสดง ในวันที่ 23-25 มิถุนายน 2566 ณ KSPO DOME กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ รวมผู้ชมกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งในคอนเสิร์ตนี้ พวกเขาก็ได้แสดงเพลงใหม่จากอัลบั้มเต็มชุดที่ 8 เป็นครั้งแรก รวมถึงเพลงฮิตอย่าง ‘Dream Girl’, ‘Don’t Call Me’, ‘Everybody’, ‘View’ และเพลงที่เรียบเรียงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมนำมาแสดงร่วมกับวงดนตรีอย่าง ‘Replay’, ‘Love Like Oxygen’, ‘Aside’ เรียกเสียงตอบรับอย่างร้อนแรงจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี กับคอนเสิร์ตแบบออฟไลน์ในประเทศเกาหลีใต้ ในรอบ 6 ปี 9 เดือนของ SHINee