แม่แจ้งจับลูกสาวในไส้ แอบยักยอกเงิน 2.5 ล้าน กดใช้จนเกลี้ยงบัญชี ลั่นจากนี้ขอตัดแม่ตัดลูก

แม่แจ้งจับลูกสาวแท้ๆ แอบยักยอกเงิน 2.5 ล้าน ไม่ยอมถอนไปใส่อีกบัญชีตามที่สัญญา ก่อนกดใช้จนเกลี้ยงบัญชี ลั่นจากนี้ขอตัดแม่ตัดลูก

ที่สถานีตำรวจภูธรตาคลี จ.นครสวรรค์ นางเล็ก อายุ 84 ปี เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.อุทัยอุตญารองสารวัตรสอบสวนว่าตนเองสงสัยว่าจะถูกลูกสาวที่ชื่อ ณัชชา อายุ 60 ปี ลูกคนโตและเป็นลูกสาวคนเดียวในจำนวน 5 คน แอบโยกย้ายเงินในบัญชีธนาคารกรุงไทยและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) จำนวนกว่า 2,500,000 บาท (สองล้านห้าแสนบาท) ของตนไป

เนื่องจากเมื่อประมาณวันที่ 26 ธ.ค.2565 ตนไปให้นางณัชชาพาไปถอนเงินจากบัญชีธนาครกรุงไทย 1,800,000 บาท เพื่อไปเข้าบัญชี ธ.ก.ส. เนื่องจากตนอ่านและเขียนหนังสือไม่ได้ ทำให้ตนมีเงินอยู่ 2 บัญชี โดยมีอยู่ในบัญชีกรุงไทย 1,000,000 บาท และธ.ก.ส. 1,500,000 บาท ส่วนอีก 300,000 บาท ตนนำติดตัวไว้ใช้เท่ากับว่าทั้ง 2 ธนาคารมีเงิน 2,500,000 บาท โดยหลังจากนั้นนางณัชชาได้มารับตนไปทำบุญที่บ้านของนางณัชชาในอำเภอตาคลี และพาไปทำบุญที่วัดต่างๆ จนค่ำไม่ยอมพากลับบ้าน แต่พาไปหาหลานสาว 2 คนซึ่งเป็นลูกของนางณัชชาที่ จ.ลำพูน โดยที่ตนมีเสื้อผ้าติดตัวไปชุดเดียว ตนใช้ชีวิตอยู่ที่จ.ลำพูน กว่า 3 เดือนก็ไม่ยอมพาตนกลับ อ.ตาคลี แม้ว่าตนจะก้มกราบเท้าทั้งลูกและหลานเพื่อขอให้พาตนกลับก็ตาม

จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มิ.ย. นางณัชชาพร้อมหลานพาตนเดินทางจากลำพูนตอนประมาณ 1 ทุ่มกลับมาถึงที่บ้านหัวหวาย อ.ตาคลี ช่วงเวลาตี 2 เข้าสู่เช้าวันจันทร์ โดยก่อนกลับได้ยึดมือถือของตนและเอกสารทุกชนิดกลับไปด้วย จนตนต้องให้เพื่อนบ้านพาไปทำบัตรประชาชนให้ใหม่ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจจึงให้เพื่อนบ้านพาไปธนาคารเพื่อตรวจสอบว่าเงินในธนาคารเหลือเท่าไหร่ ปรากฏว่าเงินในบัญชีธนาคารกรุงไทยถูกกดออกไปหมด พร้อมทั้งยังปิดบัญชีอีกด้วย เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2566 โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่ามีการกดเงินผ่านแอพพลิเคชั่นจากมือถือและชื่อบัญชีในแอพเป็นของนางณัชชาลูกสาวของยายนั่นเอง

ยายเล็กจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ตาคลี โดยระหว่างนั้นให้ญาตินำสมุดบัญชี ธ.ก.ส.เพื่อตรวจสอบยอดเงินปรากฏว่าเงินจำนวน 1,500,000 บาท ไม่มีการโอนเข้าแต่อย่างใด จึงเชื่อว่านางณัชชาไม่ได้นำเงินจากบัญชีธนาคารกรุงไทยไปโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.แต่อย่างใด ทำให้นางเล็กโกรธจัดพร้อมให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่นับเป็นแม่ลูกกันต่อไป ทางด้านร้อยเวรเจ้าของคดีกล่าวว่าจะรวบรวมหลักฐานต่างๆ ที่มีให้มากที่สุดและอาจจะมีการเชิญตัวของนางณัชชามาสอบถามกันต่อไป