หนุ่มใหญ่หัวร้อน! หิ้วปลาเน่า 2 ถัง สาดหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ร้องแก้ปัญหาจากน้ำเสียคลองภาษีเจริญและคลองสาขา
วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย ที่บริเวณหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อมีหนุ่มใหญ่วัยกลางคน หิ้วกระป๋องใส่ปลาเน่า 2 ถัง จะเอามาสาดใส่ที่พื้นด้านหน้าศูนย์ดำรงธรรมฯ โดยผู้ที่กระทำการดังกล่าวคือ นายณนพ สงวนนามสกุล ตัวแทนภาคประชาชนที่ได้มีการขับเคลื่อนเรื่องการแก้ปัญหาน้ำเสียในคลองภาษีเจริญ มานานกว่า 2 ปี
ทั้งนี้จากการลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้น นายณนพ ได้นำปลาเน่าและน้ำเสียจากคลองภาษีเจริญ อำเภอกระทุ่มแบน ใส่ถังมา 2 ถัง โดยตั้งใจจะนำมาสาดที่บริเวณหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ซึ่งในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวก็มีทั้งเจ้าหน้าที่ อส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาคอยควบคุมสถานการณ์
อีกทั้งยังมีผู้สื่อข่าวที่คอยเก็บภาพข่าวตรงนั้นด้วย แต่บังเอิญว่ามีช่วงจังหวะหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ อส. ได้เดินเข้าไปเพื่อป้องกันเหตุนั้น ทำให้นายณนพ คิดว่าเจ้าหน้าที่ อส. จะเข้าไปชาร์จตัว จึงรีบยกถังสาดทั้งปลาเน่าและน้ำเน่าเสียใส่พื้น แต่พลาดไปโดนเจ้าหน้าที่ อส. และนักข่าวพื้นที่หลายคน บางคนโดนแบบเต็มๆ เหม็นไปทั้งตัว และยังส่งผลให้อุปกรณ์ที่ผู้สื่อข่าวพกติดตัว เช่น โทรศัพท์มือถือได้รับความเสียหายจากน้ำเมือกปลาไปด้วย งานนี้ทางผู้สื่อข่าวที่ได้รับความเสียหายหรือผลกระทบจากการกระทำดังกล่าว จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมกับผู้กระทำความผิดที่ก็ยอมรับผิดทุกประการ และพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ตามความเป็นจริง
นายณนพได้บอกว่า ที่ผ่านมามีการร้องเรียนไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ปัญหาน้ำเสียในคลองภาษีเจริญก็ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทุกวันนี้น้ำยังเสียมีปลาตาย ตนเองต้องพายเรือเก็บปลาเน่าเก็บขยะในคลองตอนเช้าทุกวันและประชาชนริมคลองภาษีเจริญก็ต้องทนกับความเน่าเหม็นมาเป็นเวลานาน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนั้น จึงต้องนำปลาเน่ามาเทราด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าใจความรู้สึก แต่ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะสาดคนและได้ขอโทษผู้สื่อข่าวที่โดนปลาเน่าสาดด้วย และได้บอกว่าที่ตนเองมาเทปลาเน่านี้ก็ทราบดีว่าจะโดนอะไรบ้าง แต่ก็พร้อมที่จะโดน เพราะการร้องเรียนหากอยากให้ได้ผลต้องมีการสูญเสีย ต้องมีการลงทุน ซึ่งวันนี้ตนเองพร้อมที่จะโดนในทุกข้อหาความผิด ซึ่งหากโดนจับก็ยินดีและจะไม่ขอยื่นประกันตัวแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ขณะที่ทางด้านของ นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายบรรพต จันทรวงษ์นายอำเภอกระทุ่มแบน ก็ได้ลงพื้นที่ไปดูที่คลองกระทุ่มแบนซึ่งเป็นคลองเชื่อมต่อกับคลองภาษีเจริญ และเป็นคลองที่ถูกนายณนพ ระบุด้วยว่าเป็นสาเหตุให้ปลาในคลองภาษีเจริญตายลง เนื่องจากน้ำเน่าในคลองกระทุ่มแบนไหลย้อนกลับไปที่คลองภาษีเจริญ ประกอบกับทาง ทม.คลองมะเดื่อ ยังไม่เปิดคันกั้นน้ำตรงคลองแสนสุข ซึ่งเป็นคลองสาขาของคลองกระทุ่มแบนที่จะช่วยดึงน้ำเสียจากคลองกระทุ่มแบนก่อนไหลย้อนไปถึงคลองภาษีเจริญ จึงทำให้เกิดสภาพน้ำเน่าเสียและปลาตายในคลองภาษีเจริญ หลายๆ จุดเหม็นตลอดสายคลอง
ทั้งนี้ภายหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงตรวจดูพื้นที่แล้วก็ได้สั่งการให้นายอำเภอกระทุ่มแบนไปประสานกับประมงอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปลาตาย และน้ำเสียไหลย้อนกลับตามที่มีผู้ร้องเรียน ส่วนเรื่องของการเปิดคันกั้นน้ำในคลองแสนสุขนั้น เบื้องต้นทราบว่าก่อนหน้านี้นายอำเภอกระทุ่มแบนได้รับการร้องเรียนจากบุคคลดังกล่าวแล้ว และก็ได้สั่งการให้ทาง ทม.คลองมะเดื่อ นำเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ดำเนินการเปิดคันกั้นน้ำอย่างถาวรในวันศุกร์นี้ แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเสียก่อน
