ดรอปแพลนแต่งงาน! "ซาร่า คาซิงกินี" ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ "คริสเตียน"

1 ต.ค. 62
หลังจากที่มีแชทหลุดของหนุ่ม "คริสเตียน" แฟนหนุ่มของซิงเกิลมัมสาว "ซาร่า คาซิงกินี" หลุดออกมา หลายคนเลยสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่ายังโอเคอยู่หรือเปล่า เพราะหลังจากมีข่าวสาวซาร่าก็ไร้การอัปเดตภาพคู่ลงในโซเชียล ล่าสุดได้เจอตัวของสาว "ซาร่า คาซิงกินี" เจ้าตัวได้ชี้แจงถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับหนุ่ม "คริสเตียน" ว่า ยังปกติดี เพราะได้เคลียร์ปัญหากันเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องความเชื่อใจ ยังคงต้องใช้เวลาพิสูจน์กันต่อ ทำให้ขณะนี้แพลนแต่งงานเลยต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ตอนนี้สถานะคือคนคุยกัน ยังเป็นคนคุยเบอร์ 1 ยอมรับว่าพอเป็นข่าวก็มีคนส่งข้อมูลจับผิดฝ่ายชายมาบอกหลายครั้ง แต่ตนก็ไม่อยากตัดสินอะไรที่ไม่ได้เห็นด้วยตา ตนอาจจะไม่มีดวงด้านความรัก ทำให้บางครั้งคิดว่าบางทีตนอาจเหมาะกับการเป็นซิงเกิลมัมมากกว่า นอกจากนี้ "ซาร่า" ยังได้พูดถึง "น้องแม็กซ์เวลล์" ว่าตอนนี้เริ่มสนใจการแสดงและการร้องเพลง คุณแม่ซาร่าเลยส่งไปเรียน ถ้าน้องสนใจอะไรก็พร้อมจะสนับสนุน ทั้งนี้คุณแม่ซาร่ายังบอกอีกว่าในใจมีแพลนอยากส่ง "น้องแม็กซ์เวลล์" ไปเรียนที่อังกฤษเป็นบางช่วงด้วย โดยทางครอบครัวของ "ไมค์ พิรัชต์" ก็สนับสนุน หลายคนสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของซาร่ากับคริสเตียน? “ตอนนี้ทุกอย่างก็ยังปกติดีค่ะ” ก่อนหน้านี้มีแชทหลุดออกมาว่าเขาไปคุยกับผู้หญิงคนอื่น? “เราก็มีคุยกันถึงเรื่องนี้ จริง ๆ ทุกความสัมพันธ์ก็มีปัญหาอยู่แล้ว เราก็ได้มีการพูดคุยกันบ้าง” เขาให้เหตุผลเราว่าอะไร? “เหตุผลที่เขาพูด เราอาจจะพูดถึงไม่ได้(ยิ้ม) แต่เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว” ทุกวันนี้ก็ยังเป็นคนรักกันอยู่ใช่ไหม? “ทุกอย่างปกติค่ะ” เราไม่ติดใจกับคำพูดเขาที่หลุดออกมาเหรอ? “ไม่ติดใจค่ะ จริง ๆ ก่อนหน้าที่จะมีอะไรหลุดออกมาแบบนั้น เราก็พอทราบอยู่บ้าง ก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไรตอนที่มีข่าวหลุดออกมา” ถือว่าเรารับได้กับหนุ่มเจ้าชู้? “ไม่ได้ ๆ (หัวเราะ) เราก็ไม่โอเค ถ้าเรามีแฟนเจ้าชู้” ที่เราคบกันมาเขาเจ้าชู้ไหม? “เราก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะไม่อยากตัดสินใคร ด้วยอะไรที่เราไม่ได้เห็นด้วยตา ก็ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่าง” ที่ผ่านมาเราไม่เคยจับได้ใช่ไหม? “ส่วนมากจะเป็นแบบคนส่งมามากกว่า ซึ่งมีค่อนข้างเยอะ อาจเพราะด้วยความที่เราไม่ค่อยเปิดตัวแฟนด้วย พอเราเปิดตัวก็มีผู้หวังดีค่อนข้างเยอะ คนเป็นห่วงส่งมาให้เราเรื่อย ๆ” ได้ถามเขาไหมว่าคือเรื่องจริงทั้งหมดหรือเปล่า? “ถามค่ะ เราก็มีคุยกัน มีอะไรก็บอกว่ามีคนส่งแบบนี้มาอีกแล้วนะ” เราไม่รู้สึกเหรอว่าทำไมมันเกิดขึ้นบ่อย? “ก็รู้สึกล่ะค่ะ ก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน” เรายังเชื่อใจไว้ใจเขาอยู่ใช่ไหม? “ตอนนี้ตอบไม่ได้ มันต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” ถือว่า ณ ตอนนี้เขาปรับปรุงตัวเองดีขึ้นแล้วใช่ไหม? “ทุกอย่างยังปกติ เราก็ยังดูอยู่ว่ามันจะเป็นยังไง” ยังไม่ได้ลดความสัมพันธ์ลงใช่ไหม? “ยังค่ะ ยัง” ทำไมยังเลือกที่จะให้โอกาสเขาอยู่? “จริง ๆ เราก็ไม่ได้ให้โอกาส เหมือนเราก็เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง อยู่กันได้ในทุกสถานะ แล้วใช้เวลาในการพิสูจน์ดีกว่า” การที่จะเลื่อนขั้นมาเป็นแฟน มันยากขึ้นไหม? “ก็ยากนะ เพราะว่าเราก็ค่อนข้างซีเรียส ถ้าใครจะมาอยู่กับเราก็อยากให้อยู่กันไปยาว ๆ ไม่อยากคบกันแค่แป๊บ ๆ” สถานะตอนนี้ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอ? “เราเคยมีแพลนว่าจะแต่งงานกัน แต่แพลนมันก็เลื่อนออกไปอีก เราขอดูพฤติกรรมเขาก่อน” เขาต้องแสดงความมั่นใจให้เราขนาดไหน ถึงจะยอมใจอ่อน? “มันตอบยากนะคะ มันก็ต้องใช้เวลาเป็นหลัก คนเราบางทีอยู่ด้วยกันเป็นสิบ ยี่สิบปี แล้วเพิ่งมาออกลาย เราก็ไม่รู้ ต้องดูอะไรหลาย ๆ อย่าง” ต้องมีมาตรการเด็ดขาดกับเขาไหม? “ไม่ค่ะ เราเป็นคนไม่จู้จี้จุกจิก เราปล่อย ไม่ได้บอกว่าคุณต้องทำแบบนั้นแบบนี้ คือก็ปล่อยให้เขาอยากทำอะไรทำ เราก็แค่ดูพฤติกรรมไป ถ้าเราไม่โอเค ก็แค่ถอยออกมา” ที่ผ่านมามีคนส่งข้อมูลต่าง ๆ มา เราก็ยังไม่ปักใจเชื่อใช่ไหม? “ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ เราก็เป็นคนเหมือนนักสืบ (หัวเราะ) พอมีคนส่งมา ดูปุ๊บก็ไม่ใช่ว่าเชื่อเลย ก็ต้องไปกรองข้อมูลอีกทีหนึ่งว่ามันจริงเท็จแค่ไหน” หลังจากมีข่าวออกไป ข้อมูลที่คนส่งมาให้เราปริมาณมันน้อยลงไหม? “น้อยลงค่ะ อาจจะเพราะเราไม่ได้โพสต์อะไรเกี่ยวกับเขาแล้วด้วย หลายคนก็อาจจะคิดว่าเลิกกันแล้ว มันก็เลยทำให้คนไม่ได้ส่งอะไรมา เราเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ ของเราดีกว่า เราเหนื่อยที่จะต้องรับรู้อะไรแบบนี้เยอะ ๆ” ตอนนี้ยังคบกับเขาอยู่ใช่ไหม? “ก็เรียกว่าคุยกันอยู่แล้วกันค่ะ” แล้วแพลนต่าง ๆ ก็รอดูไปก่อน? “คือแพลนต่าง ๆ เราก็ยังใช้ชีวิตของเราปกติในตัวของเรากับลูก แต่เรื่องของเราสองคนก็ต้องขอดูก่อน” เลื่อนแบบไม่มีกำหนดเลย? “เหมือนเราไม่ได้พูดเรื่องตรงนั้นกันแล้ว ปล่อยให้เวลามันตัดสินทุกอย่าง” เหนื่อยไหมกับปัญหาความรักที่เกิดขึ้นกับเราตลอด? “เหนื่อยค่ะ เรารู้สึกว่าเป็นคนดวงไม่ค่อยดีเรื่องความรักเท่าไหร่ บางทีก็คิดว่าตัวเองอาจจะเหมาะกับการอยู่เป็นซิงเกิลมัม ก็มีแว๊บเข้ามาในหัวบ้าง” เคยไปดูดวงไหม? “เคยเชื่อมาก ๆ แล้วพอเราเชื่อมาก ๆ ทุกที่จะทักดวงความรักเราไม่ดี ไม่ควรมีคู่ แล้วเราก็คิดว่าเราต้องเป็นแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม ลึก ๆ แล้วเราก็อยากมีความรัก อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์” โดนทักแบบนี้แล้ว เราไม่กลัวผิดหวังเหรอ? “มันก็กลัว แต่ก็เป็นคนดื้อนะคะ คืออะไรที่เขาทักที่เขาเตือน แต่เราอยากรู้ อยากเห็นด้วยตัวเอง เพราะบางทีเราก็ไม่รู้หรอก ว่ามันจริงหรือไม่จริง แต่พอเราได้รู้ เราก็จะแบบ ฉันรู้แล้วแหละ ว่ามันจริงนะไม่จริงนะ อะไรแบบนี้ค่ะ” กับคนนี้ถ้าผิดหวังอีก เราจะไปต่อกับความรักไหม? “ตอบไม่ได้เลยค่ะ เพราะว่ามันไม่เจอคนที่ใช่ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าวันหนึ่งเจอคนที่ใช่ มันก็เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ” ตอนนี้นอกจาก คริสเตียน แล้วยังมีคนอื่นวนเวียนเข้ามาไหม? “มีค่ะ มี แต่เราก็ชัดเจนเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับคนที่อยู่ปัจจุบัน ก็บอกว่ามันมีปัญหานะ โน่นนี่นั่น แล้วเราก็ไม่ได้พร้อมที่จะคุยกับคนใหม่อะไรขนาดนั้น เรารู้สึกว่าเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันดีกว่าค่ะ” คริสเตียนก็ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งอยู่ใช่ไหม? “เป็นอันดับหนึ่งค่ะ”

น้องแม็กซ์เวลล์เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้? “ซนค่ะ ดื้อ เหมือนเดิม แต่ก็เริ่มรู้เรื่องขึ้น มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ตอนนี้ก็เริ่มส่งเขาเรียนเต้น เรียนการแสดง เรียนร้องเพลง เขาอยากเรียน เราก็โอเค ถ้าลูกชอบแม่ก็ซัพพอร์ตเต็มที่” ไปได้สวยไหม กับการไปเรียน? “เรื่องเต้นยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่เขาชอบแอคติ้งมาก กับร้องเพลง” ถือว่ามาเอาดีด้านวงการบันเทิงเลยไหม? “ถ้าเขาชอบนะคะ เราก็ซัพพอร์ตเต็มที่ แต่ถ้าวันหนึ่งเขาไปถึงจุด ๆ หนึ่ง แล้วไม่ชอบแล้ว เราก็โอเค เปลี่ยนลูก” คอนโทรลได้ง่ายขึ้นไหม? “คอนโทรลได้ง่ายขึ้นค่ะ เราจะคุยกับเขาด้วยเหตุผล เขาก็เห็นแม่ทำงานเหนื่อยนะ ได้เงินมาเท่านี้นะ เอาไปทำนี้นะ เขาก็จะเข้าใจ” มีแพลนไว้สำหรับเขาไหม? “แพลนตอนนี้ก็จะให้เรียนที่กรุงเทพอยู่ แล้วก็ดูช่วง ยังไงก็ยังอยากให้ย้ายไปที่อังกฤษเหมือนเดิม เพราะว่าครอบครัวซาร่าอยู่ที่อังกฤษด้วย ก็ดูก่อนว่าช่วงไหนจะเหมาะกับเด็กที่ไป” ได้คุยกับทางคุณปู่คุณย่าไหม? “ฝั่งคุณไมค์ ใช่ไหมคะ เขาตามใจเราแหละค่ะ เพราะว่าเราดื้อ (หัวเราะ) เราจะเป็นคนเหมือนแบบ ชีวิตลูกเรา เราก็จะรู้ว่าอันไหนเหมาะ เพราะเราเลี้ยงเขาเองด้วย เราก็แค่แจ้งไปทางโน้นว่าจะมีแพลนแบบนั้นแบบนี้ เขาก็โอเคทุกอย่างค่ะ” แพลนไว้ว่ากี่ขวบ ถึงจะไปอังกฤษ? “คือจริง ๆ อยากไปช่วงนี้ แต่ว่าคนเขาก็พูดว่าถ้าไป เราก็ต้องไปด้วย แล้วเราก็กังวลว่างานเราก็ต้องทำ เราก็ต้องดูจังหวะให้มันเหมาะสม คือเราจะต้องลงตัวประมาณหนึ่ง เราถึงจะย้ายไปอยู่ที่นั่นได้นะคะ” แล้วจะไปถาวรเลยไหม? “ไม่ถาวรค่ะ แค่ให้น้องเรียนอยู่ช่วงหนึ่งค่ะ แล้วก็กลับมา”

ภาพจาก : IG@sarahcasinghini

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส