เปิดโลก “แซกี” ตำราจักรพรรดิ พิธีจีนโบราณ ศาสตร์เดียวในโลกที่พลิกโชคชะตาเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น กับ "อาจารย์ฐาปน อังกาบสี" ซินแสแซกี อันดับ 1 ของประเทศไทย
“โชคชะตา” กำหนด “ชีวิต” คำกล่าวที่ทำให้หลายคนยอมจำนนให้กับชีวิตตัวเอง และนั่นก็อาจทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นไปตามครรลอง ทั้งนี้ เชื่อว่าหลายคนเลือกที่จะไม่ยอมแพ้ให้กับโชคชะตา และลุกขึ้นมากำหนดให้ตัวเอง เป็นแบบในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด แต่นั่นอาจต้องอาศัยความเก่ง ความสามารถ และการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่นับรวมกับ “โอกาส” ที่อาจเกิดขึ้น หรือไม่เกิดขึ้นด้วยก็ได้ ซินแสแซกี อันดับ 1 ของประเทศไทย “อาจารย์ฐาปน อังกาบสี” ผู้เชี่ยวชาญด้านการนำ “ฮวงจุ้ยกระแสธาตุ” มาปรับชีวิตให้คนดังระดับประเทศ และคนธรรมดาอีกหลายๆ คนที่อยากเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเอง โดย “ซินแสแซกี” ผู้นี้ สามารถเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้ ด้วยการใช้วิธีการทำ “แซกี” พิธีจีนโบราณ ตามตำราจักรพรรดิ
“อาจารย์ฐาปน อังกาบสี” ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยกระแสธาตุ อธิบายเรื่องเล่าของ “แซกี” หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “สุสานคนเป็น” ไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า “แซกี” คือ การปรับกระแสธาตุเปลี่ยนพลังงานชีวิตให้ดีขึ้น โดยการนำ DNA และสิ่งของส่วนตัว ซึ่งเป็นตัวแทนของเรา ไปฝังไว้ในหลุมแซกีตามตำแหน่งชัยภูมิที่ดีที่สุด ซึ่ง “ศาสตร์แซกี” ถือเป็นศาสตร์หนึ่งในตำราโหราศาสตร์จีนโบราณ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง ที่เกิดจากกระแสธาตุในร่างกายของมนุษย์โดยเมื่อตรวจสอบกระแสธาตุในตัว จากวัน เดือน ปี และเวลาเกิดแล้ว ก็จะใช้วิธีการหลักวิชาฮวงจุ้ยแซกี มาทำการแก้ไขจุดบกพร่อง เพื่อปรับเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น
การทำ “แซกี” เพื่อปรับดวงชะตาให้ดีขึ้นนั้น สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นในทุกรูปแบบ ทั้งการงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก โดยหลังตรวจกระแสธาตุประจำตัวแต่ละคนแล้ว เราก็สามารถเลือกได้ว่า ต้องการเน้นที่จะเสริมหรือปรารถนาในเรื่องใดเป็นพิเศษ อาทิเช่น
- ด้านการเงิน ความมั่นคง ความร่ำรวย ส่งเสริมการค้าขาย การทำธุรกิจ กิจการให้เจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา
- ด้านการงาน ได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เสริมดวง เสริมงาน เสริมอำนาจ บารมี
- ด้านสุขภาพ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย และเหมาะกับคนที่เป็นโรคแล้วรักษาไม่หาย หรือไม่ทราบสาเหตุ
- ด้านความรักและครอบครัว ส่งเสริมให้เกิดความรักใคร่กลมเกลียว เกิดความสามัคคีกัน และแก้ปัญหาความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้คนโสดมีคู่ชีวิตได้อีกด้วย
สำหรับวิธีทำแซกี อาจารย์ฐาปน อังกาบสี เล่าว่า การทำพิธีแซกีจะเริ่มต้นที่การตรวจดวงชะตาของผู้ทำก่อน เพื่อค้นหา “กระแสธาตุ” ที่เป็นจุดดี จุดเด่น หรือจุดบกพร่องต่างๆ ก่อนที่ซินแสผู้เชี่ยวชาญจะสอบถามถึงความต้องการของผู้ทำว่า ต้องการปรับดวงชะตาในด้านใดเป็นพิเศษ ซึ่งตรงนี้มีผลกับการปรับองศาและทิศทางของโครงสร้างใต้ดินด้วย
จากนั้นเมื่อโครงสร้างใต้ดินเสร็จ ซินแสแซกีจะนำ DNA ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ทำ อย่าง ผม เลือด เล็บ และน้ำลาย หรือของใช้ส่วนตัว บรรจุลงในโถรูปเต่ามังกร และทำพิธีฝังแซกี ตามฤกษ์ยามของแต่ละคน ซึ่งฤกษ์ยามนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก จำเป็นต้องให้ซินแสผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้หาและกำหนดฤกษ์ยามที่ดีที่สุด เพื่อให้แซกีส่งผลกับโชคชะตาของผู้ทำโดยตรง
ทั้งนี้ การทำ “แซกี” แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ “แซกีเต่ามังกร” และ “แซกีฮวงซุ้ย” โดยความแตกต่างของแซกี 2 ประเภทนี้คือ พื้นที่ของหลุมแซกี ที่มีขนาดเล็กและใหญ่ไม่เท่ากัน โดยการทำแซกีที่เป็นแบบ “แซกีเต่ามังกร” จะใช้พื้นที่น้อยกว่าการทำ "แซกีฮวงจุ้ย” ที่มีรูปแบบโครงสร้างใต้ดินที่ซับซ้อนมากขึ้น เพราะสามารถทำได้เฉพาะเจาะจงเรื่องที่ปรารถนาได้มากกว่า และสามารถทำได้พร้อมกัน 2 คน หากกระแสธาตุไม่ตีกัน
นอกจากนี้ อาจารย์ฐาปน อังกาบสี ยังได้อธิบายเรื่องการเลือกใช้สัตว์เทพอย่าง “เต่ามังกร” มาทำ “แซกีเต่ามังกร” ให้ฟังอีกว่า ในภาษาจีนจะเรียกเต่ามังกรว่า “หลงกุ่ย” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ สุขภาพ และอายุยืน และความเชื่อในเรื่อง “มังกร” ที่แสดงถึงอำนาจ บารมี และในปัจจุบันมังกรก็เป็นตัวแทนของเรื่องการงานอีกด้วย เพราะฉะนั้น “เต่า” ที่มีหัวเป็น “มังกร” จึงสื่อถึงอำนาจ วาสนา และบารมี ทั้งในเรื่องการงาน การเงิน ส่วนสัญลักษณ์ “กระดองเต่า” จึงหมายถึง อายุที่ยืนยาว ความสามัคคี กลมเกลียว ที่บ่งบอกในเรื่องสุขภาพและความรักนั่นเอง
สำหรับการตรวจหา “กระแสธาตุ” ของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน นั่นบ่งบอกถึงรูปแบบชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่เหมือนกัน ทั้งในเรื่องของความมั่นคั่งร่ำรวย ความยากจน การใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก การเรียนหนังสือในวัยเด็ก ที่เรียนเก่งและเรียนไม่เก่ง แต่นั่นก็ไม่ได้บ่งชี้ว่า รวยแล้วต้องเรียนหนังสือเก่ง หรือเรียนเก่งแล้วจะทำงานได้ตำแหน่งสูงๆ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับ “กระแสธาตุ” ของแต่ละคนนั่นเอง
การทำแซกีจึงต้องมาดูเรื่อง “กระแสธาตุ” ประจำตัวเป็นเรื่องแรก ว่ามีองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 เป็นอย่างไร แล้วนำมาปรับหา “สมดุลธาตุ” ของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีธาตุเงินทอง มากกว่าธาตุตัวเอง แสดงว่า ใช้ไม่หมด ใช้แล้วมันเหลือ แต่พอตั้งดวงแล้วไม่มีธาตุเงินทอง แสดงว่า ดวงเป็นคนที่มีรายจ่าย ไม่สมดุลกับรายรับ แปลว่าชีวิตนี้อาจจะเก็บเงินได้ยาก หรือต่อให้เราขยันแล้วเท่าไหร่ ก็ยังจนยังเงินเดือนน้อยเหมือนเดิม นอกจากนี้กระแสธาตุยังระบุได้ถึงเรื่องคู่ครอง บางคนธาตุบ่งบอกไว้เลยว่า แต่งงานช้า หรือไม่มีคู่ หรืออาจจะมีคู่ที่ไม่ดีกับเราด้วย
นี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมนักธุรกิจส่วนใหญ่มักเลือกที่จะทำ “แซกี” เพราะนักธุรกิจต้องการลงทุนน้อย แต่ให้ได้ผลกำไรมาก เมื่อเราทำแซกี เราจะรู้รายละเอียดเกี่ยวกับกระแสธาตุ ทำให้เราสามารถควบคุมดวงชะตาได้ ศาสตร์แซกี จึงเป็นศาสตร์เดียวในโลก ที่เราต้องการจะใช้ควบคุมชะตาชีวิต
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ฐาปน อังกาบสี ยังมีคำแนะนำวิธีเสริมธาตุที่ทำให้เฮงและรวย สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำแซกีมาฝาก แต่ไม่ได้ลงลึกรายละเอียดในเรื่องธาตุอื่นๆ ของแต่ละคน โดยสามารถเสริมธาตุด้วยวิธีง่ายๆ คือเปลี่ยนสีเสื้อผ้า สีผ้าปูที่นอน เพื่อปรับฮวงจุ้ย แต่ทั้งนี้การปรับฮวงจุ้ย เหมาะกับการที่เราอยู่บ้านตลอดเวลา เพราะมันจะได้ผลตอนที่เราอยู่บ้านหรืออยู่ในห้องเท่านั้น แต่ถ้าเราออกไปทำงานข้างนอก หรือไปคุยกับลูกค้า พลังงานที่เราปรับฮวงจุ้ยปรับบ้าน มันจะไม่ครอบคลุมแล้ว เหตุผลเพราะว่า “ฮวงจุ้ย” คือ วิชาปลายเหตุของวิชาการทำสุสาน ต้นกำเนิดวิชาฮวงจุ้ยนั้นมาจากวิชาการทำสุสาน ก่อนนำมาประยุกต์ใช้ในบ้าน ดังนั้นการปรับฮวงจุ้ย คือการปรับแก้สภาพแวดล้อมให้ส่งเสริมดวง แต่ไม่ใช่การแก้ไขพื้นดวงจริงๆ ไม่เหมือนกับการทำแซกี
5 ธาตุตามพื้นดวง คือคนที่เกิดธาตุอะไร จะสามารถเสริมธาตุแห่งความสุข ธาตุเงินทองและโชคลาภ ซึ่งสามารถเสริมพลังงานธาตุได้เพียง 10-20% ดังนี้ :
- คนเกิดธาตุทอง เสริมด้วยธาตุไม้ สีเขียว เน้นเครื่องประดับประเภทเชือก ด้าย สายสิญจน์
- คนเกิดธาตุไฟ เสริมด้วยธาตุทอง สีขาว เทา ทอง เงินทอง เน้นเครื่องประดับประเภทโลหะ เงินหรือทอง
- คนเกิดธาตุไม้ เสริมด้วยธาตุดิน สีน้ำตาล วนิลา สีเหลือง สีส้ม เน้นเครื่องประดับประเภทหินมงคล
- คนเกิดธาตุดิน เสริมด้วยธาตุน้ำ สีฟ้า น้ำเงิน ห้ามดำ เน้นเครื่องประดับประเภทโลหะ เงินหรือทอง
- คนเกิดธาตุน้ำ เสริมด้วยธาตุไฟ สีแดง สีม่วง สีชมพู เน้นเครื่องประดับประเภทเพชรพลอย
สำหรับเทคนิคการทำแซกี สิ่งสำคัญที่สุด คือการเลือก “ซินแสแซกี” อาจารย์ฐาปน อังกาบสี แนะนำว่า อาจารย์หรือซินแสทำแซกีนั้นมีอยู่มากมาย แต่ขอแนะนำให้เลือกให้ซินแสแซกีที่ดี มีจรรยาบรรณ ไม่ได้มุ่งเน้นธุรกิจ เพราะหลายคนทำไปแล้ว มักกลับมาบอกว่า ไม่เห็นได้ผลแบบที่ต้องการเลย นั่นอาจเป็นเพราะการทำพิธีแซกีไม่ถูกต้องตามศาสตร์ตำราโบราณ ที่ต้องทำอย่างละเอียดตั้งแต่การตรวจดูโชคชะตา ค้นหากระแสธาตุ และการจัดวางทิศทาง DNA การหาองศาที่เหมาะสมกับเรื่องที่ปรารถนา
รวมไปถึงวิธีการทำพิธี ที่ต้องเป็นไปตามตำราศาสตร์จีนโบราณแบบดั้งเดิมจริงๆ โดยห้ามผิดหลักการของการทำสุสานคนเป็นเลย ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ที่จะทำแซกี ใส่ใจในเรื่องการเลือก “ซินแสแซกี” เป็นสำคัญ เพราะหากเสียเงินไปแล้ว และหลุมแซกีอาจไม่ส่งผลต่อสิ่งที่เราปรารถนา จนอาจเกิดความเข้าใจผิดไปว่า “แซกี” ไม่สามารถแก้ดวงชะตาได้จริงตามไปด้วย.