เปิดประวัติ "ครูชลธี ธารทอง" ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของฉายาเทวดาเพลง-ครูเพลงระดับตำนาน นักปั้นมือทองแห่งวงการเพลงลูกทุ่ง
ชลธี ธารทอง มีนามเดิมว่า สมนึก ทองมา เป็นนักประพันธ์ชายเพลงไทยลูกทุ่ง มีผลงานเพลงเป็นที่รู้จัก และได้สร้างนักร้องมีชื่อเสียงโด่งดังหลายคนประดับวงการเพลงในประเทศไทย ชลธี ธารทอง ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักประพันธ์เพลงลูกทุ่ง) ประจำปี 2542
ประวัติครูชลธี ธารทอง
ชลธี ธารทอง มีชื่อจริงว่า สมนึก ทองมา เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2480 ที่ จ.ชลบุรี พ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แม่เจ็บท้องคลอดตอนกำลังเกี่ยวข้าว และตกเลือดตายตั้งแต่อายุ 6 เดือน ตอนเขาเกิด แม้แต่ผ้าขี้ริ้วที่จะนำมาทำผ้าอ้อมก็ยังไม่มี
ชีวิตในวัยเด็ก
ชีวิตในวัยเด็กนั้นค่อนข้างยากจน ครูชลธีเข้าเรียนชั้นประถม 1 ที่โรงเรียนวัดแก้วศิลาราม ที่ชลบุรี มาต่อชั้นประถม 4 ที่โรงเรียนวัดโคกขี้หนอน ที่ชลบุรี จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนประชาสงเคราะห์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี จากนั้นก็ย้ายมาอยู่กับญาติที่ราชบุรี เคยผ่านงานมาหลากหลาย ทั้งทำนา ทำไร่ ขุดดิน เผาถ่าน ช่างไม้ ก่อสร้าง นักมวย ลิเกนักพากย์หนัง หางเครื่อง กรรมกร และนักร้อง ปัจจุบันมีถิ่นพำนักอยู่ที่ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
ชลธีสนใจการร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เล็ก และเคยเป็นนักร้องเพลงเชียร์รำวงของวงดาวทอง เชียร์รำวงชื่อ ดังอีกวงของยุคนั้น ต่อมาสมัครเข้าเป็นนักร้องในวงดนตรีของสุรพล สมบัติเจริญ ราชาเพลงลูกทุ่งไทย และได้ขึ้นเวที ในวันที่มาสมัคร แต่เนื่องจากไม่มีที่พักในกรุงเทพฯ ต้องเดินทางไปกลับต่างจังหวัด (ราชบุรี) ขณะเดียวกันก็ไม่ชำนาญเส้นทางในกรุงเทพ จึงมาเข้าวงสายตลอด 3 วันถัดมา จึงถูกไล่ออก
จากนั้นก็มีผู้ชักชวนให้มาอยู่กับวงลิเก และพากย์หนัง ก่อนจะบวช หลังจากสึกก็มาเป็นหางเครื่องอยู่กับวง เทียนชัย สมญาประเสริฐ ที่มีนักร้องดังอย่าง ผ่องศรี วรนุช ซึ่งเป็นภรรยารวมอยู่ด้วย แต่ลาออกจากวงเพราะถูกกล่าวหาว่าขโมยทองของนักร้องในวงระหว่างที่รถของคณะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ
ต่อมา ได้สมัครประกวดร้องเพลงที่จัดโดยวงรวมดาวกระจายของครูสำเนียง ม่วงทองโดยใช้เพลงที่เขาแต่งขึ้นเอง ซึ่งเขาก็ชนะ และครูสำเนียงรับให้มาอยู่ร่วมคณะ แต่ไม่ได้ขึ้นร้องเพราะนักร้องเต็ม และครูสำเนียงเป็นคนตั้งชื่อให้เขาว่า ชลธี ธารทอง เพราะเป็นคนเมืองชลฯ หลังจากอยู่มาปีครึ่ง ชลธี จึงได้ขึ้นร้องเพลง และต่อมาได้อัดแผ่นเสียงรวม 4 เพลง แต่ไม่ดังสักเพลง ระหว่างนั้น ถ้ามีเวลาว่าง เขาก็ ได้ศึกษาวิชาแต่งเพลงอย่างเป็นกิจจะลักษณะจากครูสำเนียง และก็ได้นำความรู้ความสามารถในการเขียนโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน มาใช้ในการแต่งเพลง
ระหว่างที่อยู่วงรวมดาวนี้เองที่เพลง "พอหรือยัง" ของชลธี ถูกศรคีรี ศรีประจวบนำไปร้องจนประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีใครเชื่อว่าเขาเป็นคนแต่ง เพราะเพลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาไปหลงรักสาวร่วมคณะรวมดาวกระจาย และก็อกหัก เลยแต่งเพลงนี้นำมาร้องแก้กลุ้ม พอดีมีนักร้องชายในวงอีกคนเกิดชอบ ก็มาขอไปร้องบนเวที
ต่อมานักร้องคนนั้นโดนไล่ออก และได้ไปอยู่กับวงศรคีรี และเมื่อศรคีรีได้ยินเพลงนี้จึงถามว่าใครแต่ง นักร้องคนนั้นได้บอกว่าเขาแต่งเอง ศรคีรีจึงขอเอามาอัดแผ่นเสียงโดยใช้ชื่อคนแต่งว่าศรคีรี เมื่อชลธี ธารทอง ออกมา ทักท้วง ศรคีรี ก็ได้มาอธิบายจนเป็นที่เข้าใจกันทุกฝ่าย
ครั้งที่อยู่กับวงรวมดาวกระจาย ชลธีมีโอกาสบันทึกเสียง 4 เพลง แต่ไม่ได้โด่งดังมากนัก ต่อมาชลธี ถูกไล่ออกจากวงรวมดาว ในข้อกล่าวหาดังแล้วแยกวง ซึ่งไม่เป็นความจริง จากนั้นก็มีนายทุนออกเงินตั้งวงให้ ชื่อวง "สุรพัฒน์" แต่ก็ไปไม่รอด ขณะที่เพลงของเขาก็ขายไม่ค่อยได้เพราะคนไม่รู้จักชื่อเสียง
พอดีกับศรคีรีมาขอให้ช่วยแต่งเพลงให้ แต่พอเขาแต่งเพลงชุดนั้นเสร็จ ศรคีรีก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน ชลธีจึงตัดสินใจหันหลังให้วงการเพลง และพาครอบครัวไปช่วยพ่อตาแม่ยายทำไร่ข้าวโพดที่แก่งเสือเต้น
แต่ก่อนจะไปจากกรุงเทพฯ เขาบังเอิญไปพบกับเด็กล้างรถที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวบุคคโล ซึ่งมีเสียงถูกใจจึงได้มอบเพลง 2 เพลง ที่กะจะให้ศรคีรีกับเด็กคนนั้นไปโดยไม่คิดเงิน ต่อมาเด็กคนนั้นก็คือสายัณห์ สัญญา ที่โด่งดังจากเพลง "ลูกสาวผู้การ" และ "แหม่มปลาร้า" ที่เขามอบให้ในวันนั้น
เมื่อสายัณห์โด่งดัง เขาจึงถูก มนต์ เมืองเหนือ เรียกตัวกลับกรุงเทพเพื่อให้มาแต่งเพลง ทำให้ลูกศิษย์คนต่อมาของเขาก็คือ เสกศักดิ์ ภู่กันทอง โด่งดังจากเพลง "ทหารอากาศขาดรัก" จากนั้นชลธีก็ตั้งหน้าตั้งตาผลิตผลงานและสรรหานักร้องคุณภาพออกมาประดับวงการอยู่เนืองๆ จนประสบความสำเร็จอย่างมาก และในที่สุดก็ได้รับฉายาจาก "ยิ่งยง สะเด็ดยาด"
ก้าวเข้าสู่วงการ
หันมาจับธุรกิจทำวงดนตรีลูกทุ่ง โดยทำวงให้กับ สุริยัน ส่องแสง แต่ปรากฏว่า นักร้องนำถูกยิงตายเสียก่อน เขาเลยต้องเป็นหนี้ยกใหญ่ บทเพลงของ ชลธี ธารทอง มีจุดเด่นในการเลือกสรรถ้อยคำในลักษณะของกวีนิพนธ์มาใช้ในการแต่งเพลง เนื้อหามีสาระส่งเสริมคุณค่าวิถีชีวิตไทย ท่วงทำนองเพลงมีความไพเราะตรึงใจผู้ฟัง บทเพลงมีความดีเด่นในศิลปะการประพันธ์ที่ใช้ฉันทลักษณ์หลายรูปแบบ
เป็นนักแต่งเพลงที่แต่งทั้งคำร้องและทำนองเพลงเอง ผลงานเพลงล้วนแต่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักฟังเพลง สร้างนักร้องลูกทุ่งให้มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมากอาทิ สายัณห์ สัญญา, ยอดรัก สลักใจ, เสกศักดิ์ ภู่กันทอง, วิไล พนม, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง, เสรีย์ รุ่งสว่าง, เอกพจน์ วงศ์นาค, บุษบา อธิษฐาน, สุนารี ราชสีมา, ดำรง วงศ์ทอง, นพรัตน์ ไม้หอมเป็นต้น
ผลงานการแต่งเพลง มีผลงานประพันธ์มากกว่า 2,000 เพลง
- พอหรือยัง (ศรคีรี ศรีประจวบ)
- อีสาวทรานซิสเตอร์ (อ้อยทิพย์ ปัญญาธร)
- ไอ้หนุ่มตังเก (ไพรวัลย์ ลูกเพชร)
- หนาวใจที่ชายแดน (ไพรวัลย์ ลูกเพชร)
- สำรวยลืมคำ (ไพรวัลย์ ลูกเพชร)
- ล้นเกล้าเผ่าไทย (สายัณห์ สัญญา)
- จำปาลืมต้น (สายัณห์ สัญญา)
- ไอ้หนุ่มรถไถ (สายัณห์ สัญญา)
- คาถามัดใจ (สายัณห์ สัญญา)
- ปิดห้องร้องไห้ (สายัณห์ สัญญา)
- นางฟ้ายังอาย (สายัณห์ สัญญา)
- สาวเวียงหนุ่มไทย (จินตหรา พูนลาภ)
- แรงงานข้าวเหนียว (จินตหรา พูนลาภ)
- ผู้บ่าวลืมเกิบ (จินตหรา พูนลาภ)
- พบรักปากน้ำโพ (สายัณห์ สัญญา)
- คำสั่งเตรียมพร้อม (สายัณห์ สัญญา)
- แหม่มปลาร้า (สายัณห์ สัญญา)
- กินอะไรถึงสวย (สายัณห์ สัญญา)
- ลูกสาวผู้การ (สายัณห์ สัญญา)
- แฟนฉันไม่ต้องหล่อ (สุนารี ราชสีมา)
- เทพธิดาผ้าซิ่น (เสรีย์ รุ่งสว่าง)
- จดหมายจากแม่ (เสรีย์ รุ่งสว่าง)
- เรียกพี่ได้ไหม (เสรีย์ รุ่งสว่าง)
- หนุ่มทุ่งกระโจมทอง (เสรีย์ รุ่งสว่าง)
- จดหมายจากแนวหน้า (ยอดรัก สลักใจ)
- ล่องเรือหารัก (ยอดรัก สลักใจ)
- ทหารอากาศขาดรัก (เสกศักดิ์ ภู่กันทอง)
- หน้าอย่างเธอจะรักใครจริง (สดใส รุ่งโพธิ์ทอง)
- วันนี้สวยกว่าเมื่อวาน (สุริยัน ส่องแสง)
- กินข้าวกับน้ำพริก (ผ่องศรี วรนุช)
- จำปาคืนต้น (ผ่องศรี วรนุช)
- สาวปากน้ำโพ (ผ่องศรี วรนุช)
- เมตตาธรรม (เพลงการกุศล สมทบกองทุนเพื่อเด็กไทย)
- สาวเพชรบุรี (พุ่มพวง ดวงจันทร์)
- พาร์ตเนอร์เบอร์ห้า (พุ่มพวง ดวงจันทร์)
- ยังรักเสมอ ( ดำรง วงศ์ทอง )
- นักรบนิรนาม ( แมงปอ ชลธิชา )
- ฟ้าร้องไห้ (เพลงถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช)
ผลงานด้านภาพยนตร์
- เพลงรักลูกทุ่ง (2515)
- มนต์เพลงลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. (2545) รับบท กรรมการงานประกวด
- รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน (2556) รับบท ชลธี (รับเชิญ)
งานเขียน
- หนังสือ ชลธี ธารทอง เทวดาเพลง (2547)
เกียรติยศ
- แผ่นเสียงทองคำพระราชทาน 1 รางวัล จากเพลง“อีสาวทรานซิสเตอร์” ปี 2525
- รางวัลเสาอากาศทองคำ 3 รางวัล จากเพลง “น้ำตาอีสาน”ปี 2518, “ใต้ถุนธรณี” ปี 2521และ "ห่มธงนอนตาย” ปี 2519
- รางวัลงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทยภาค 1-2 รวมจำนวน 7 รางวัล จากเพลง "ไอ้หนุ่มตังเก", "ไม้เรียวครู", " สาวใต้ไร้คู่" และ "อีสาวทรานซิสเตอร์" ปี 2532 และจากเพลง “ล้นเกล้าเผ่าไทย", "เทพธิดาผ้าซิ่น" และ แรงงานข้าวเหนียว ปี 2534
- รางวัลชนะเลิศเพลงประเพณีสงกรานต์ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ 1 รางวัล ปี 2533
- รางวัลลูกทุ่งดีเด่นส่งเสริมวัฒนธรรมไทย 3 รางวัล จากเพลง" หนาวใจชายแดน", "พบรักนครพนม" และ"จงทำดี”
- โล่เกียรติคุณงานมหกรรมเพลงอาเซียนที่ประเทศมาเลเซียจากเพลง"อีสาวทรานซิสเตอร์" ปี 2524
- ได้รับเกียรติให้นำผลงานเพลง "ล้นเกล้าเผ่าไทย" แสดงในงาน 60 ปี เล่าขานตำนานลูกทุ่งไทย
- ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักประพันธ์เพลงลูกทุ่ง) ประจำปี 2542