สาวป่วยประหลาด! นอนตาขวางไม่พูดจากว่า 3 เดือน หลังเก็บสร้อยคนตายมาใส่

สาวป่วยประหลาด! นอนตาขวาง ตัวสั่น ไม่พูดจามากว่า 3 เดือน ซ้ำทุบทำลายรูปปั้นองค์พญานาค หลังเก็บสร้อยคนตายมาใส่

28 ก.ค. 2566 ที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยตีคลี 8 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ของนายนิตย์ พึ่งสกุล อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป พาผู้สื่อข่าวไปดู นางกฤษณา สุเสรี ภรรยา วัย 48 ปี ที่นอนอยู่ในบ้านด้วยอาการสั่น ตาขวาง ไม่ยอมพูดจามากว่า 3 เดือน จนมีแผลกดทับบริเวณก้น โดยทางสามีเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนที่จะมาเป็นแบบนี้ว่า ตนและเมียมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว

แต่เมื่อหลายปีก่อนที่อำเภอตาคลี เกิดเหตุรถแก๊สระเบิด โดยมีถังแก๊สกระเด็นไปถูกชายคนหนึ่ง ที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาจนศีรษะขาดกระเด็น เสียชีวิตคาที่ โดยหลังจากนั้นไม่กี่วัน ตนไปตรงที่จุดเกิดเหตุกับเมียก็พบชิ้นส่วนลำไส้และอวัยวะภายในของคนตาย ซึ่งตนไม่รู้คิดว่าเป็นเครื่องในของหมู และพบสร้อยคอสแตนเลสตกอยู่ข้างๆ เมียจึงนำมาคล้องคอ

หลังจากกลับไปถึงบ้านเมียมีอาการแปลกๆ เมื่อเวลาไปทำงานเมียมักจะเล่าให้ตนฟังว่า เห็นผีผู้ชายอยู่บ่อยครั้ง จึงนำสร้อยคอไปถวายให้กับวัด แต่อาการของเมียก็ยังไม่เป็นปกติ ดีบ้าง ร้ายบ้าง จนมาถึงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนซึ่งมีความเชื่อเรื่ององค์พญานาคราช จึงเช่ารูปปั้นมาบูชาไว้ที่หน้าบ้าน แต่พอเมียของตนเห็นก็เกิดอาการคุ้มคลั่ง ทุบทำลายรูปปั้นพญานาคจนต้องนำไปถวายวัดอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้อาการของหนักขึ้น บางวันก็อาละวาด โดยตนเคยถามเมียว่าใช่นางหนาไหม?  (ชื่อเล่นเมีย) โดยเมียก็ตอบแบบน้ำเสียงห้วนๆ ที่ไม่ใช่สำเนียงการพูดของเมียว่า “ไม่ใช่” โดยหลังจากนั้นอาการก็ทรุดลงพูดจาไม่รู้เรื่อง

ทางด้าน นางปรารถนา สงวนนามสกุล เพื่อนบ้านให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บางวันนางปริศนาจะลุกขึ้นได้เองเหมือนคนปกติ แต่คำพูดคำจาและกริยาท่าทางจะเปลี่ยนไปเป็นคนดุร้ายก้าวร้าว จนถึงขั้นตำรวจต้องควบคุมตัวนำส่งโรงพยาบาล โดยรักษาอาการเบื้องต้น จากนั้นก็กลับมาที่บ้านก็จะนอนอยู่แบบนี้ โดยไม่ยอมหลับมาเป็นเกือบ 3 เดือนแล้ว

และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีบ้านที่อยู่ปากทางเข้าบ้านของสองผัวเมียประมาณ 50 เมตร ก็เกิดเหตุลูกชายเจ้าของบ้านผูกคอตายมาเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา เลยคิดว่าครอบครัวของสองผัวเมียน่าจะมีวิญญาณของภูติผีตนใดมาสิงร่างของนางกฤษณาแน่นอน จึงวอนให้หมอปลามาช่วยตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือเพราะไม่อยากให้นางกฤษณาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้