พรรคเพื่อไทย แจงเหตุผลผลัก พรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน อุบ จับมือ รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ บอกรอฟังรายละเอียดพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 14.19 น. วันที่ 2 ส.ค. 66 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงผลการหารือร่วมกับ พรรคก้าวไกล ซี่งมีการประชุมร่วมกันตั้งแต่เวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา
โดย นพ.ชลน่าน อ่านแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยตอนหนึ่งว่า “เริ่มต้นใหม่ ร่วมผ่าทางตัน หาทางออกให้ประเทศ เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ เสนอชื่อนาย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย และนาย เศรษฐา ทวีสิน ขอยืนยันชัดเจนว่า เราจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วม พรรคเพื่อไทยจะใช้ความพยายามรวบรวมเสียง ให้เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเหมาะสม และพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน และยืนยันจะทำงานการเมืองในมิติใหม่ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน”
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มีพรรคไหนบ้างที่พรรคเพื่อไทยได้พูดคุยไว้ และการ โหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค. พรรคก้าวไกลจะโหวตให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค. เราเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.พรรคก้าวไกล หรือเป็นมติของ พรรคก้าวไกลว่าจะลงคะแนนให้หรือไม่ลงคะแนนให้ พรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคร่วมใหม่นั้นต้องขออนุญาตให้ข่าวต่อสื่อมวลชนภายในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) สำหรับ สว.จะโหวตให้เราหรือไม่นั้น ด้วยข่าวที่เราแถลงวันนี้ และแนวทางที่ชัดเจนต่อข้อกังวลของ สส. และสว.เรามั่นใจงว่าภายใต้เงื่อนไขที่แถลงไปจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของ สว. เราพยายามลดเงื่อนไขเดิมๆ เหล่านั้นทั้งหมด เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่ สว.ให้ความเห็นชอบกับเราได้
เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมใหม่จะมี พรรครวมไทยสร้างชาติกับ พรรคพลังประชารัฐ ด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “รอวันพรุ่งนี้”
เมื่อถามว่า เสียงพรรคร่วมรัฐบาลที่พอเหมาะ เราตั้งไว้เท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เกินครึ่ง สามารถบริหารประเทศได้ ขณะนี้เรากำลังทำงานอยู่ วันพรุ่งนี้เราน่าจะสามารถแถลงผลการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ รายละเอียดขอให้รอดูวันพรุ่งนี้ ส่วนเวลาและสถานที่เราจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า การบอกเลิกครั้งนี้ พรรคก้าวไกลรับฟังเหตุผลพรรคเพื่อไทยหรือไม่อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับบรรยากาศการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เราเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.30-11.45 น. บรรยากาศพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดี พรรคก้าวไกลก็รับฟังด้วยดี และยืนยันเขาเองต้องการความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย อาจมีความคาดเคลื่อนเรื่องการนัดหมายและความเข้าใจต่างๆ ภายในของแต่ละพรรค เราก็ทำความเข้าใจกัน
“โดยสรุป มันไม่ใช่การบอกเลิก แต่เป็นสิ่งที่เรามีความจำเป็นที่ต้องพูดถึงเหตุและผลที่จะต้องแยกมาจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรคก้าวไกล” นพ.ชลน่าน กล่าว
ขณะที่นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีประเด็นที่ สส.พรรคก้าวไกล ได้แถลงว่าเราดึงเวลาจนถึงนาทีสุดท้ายจนเกิดปัญหา เหมือนกับหลอกพรรคก้าวไกลโหวตให้เรา และก็ไม่ดำเนินการแบบตรงไปตรงมา เราก็ชี้แจงพรครก้าวไกลว่าการที่เราเชิญพรรคทั้งหมดไม่ใช่การดึงเวลา แต่เราได้รับการร้องขอจากแกนนำพรรคก้าวไกลให้เรารอถึงเวลา 23.00 น. วันที่ 31 ก.ค. เราก็รอจนถึงเที่ยงคืน แต่ไม่มีการติดต่อมา ดังนั้นวันที่ 1 ส.ค. เราก็ต้องดำเนินการในส่วนของเรา ทั้งหมดนี้เราได้คุยกับพรรคก้าวไกลมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด แต่อาจจะเป็นปัญหาเรื่องการสื่อสารภายใน ที่แกนนำสำคัญพูดคุยกับเรา แต่ก็มี สส.ออกมาต่อว่าต่อขาน หรืกล่าวหาเรา เราก็บอกว่าไม่ถือสา แต่คิดว่าเราต้องคุยกันให้เข้าใจ และเราก็ชี้แจงผ่านตัวแทนเขาไปว่าทั้งหมดไม่ได้เกิดจากการที่เราดึงเกม แต่ที่ช้า เพราะเราถูกร้องขอให้รอ ดังนั้นเราจึงต้องทำตามสิ่งที่ควรจะเป็น และได้โทรศัพท์ชี้แจง 6 พรรคร่วมเดิมว่าเราจำเป็นต้องเลือกทางเดินในการเสนอการจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ เพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นได้
“เราได้ชี้แจง 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดิมว่าเราจะไปเริ่มต้นใหม่ ส่วนการจะเริ่มต้นใหม่ก็อยู่ที่กระบวนการพุดคุยกัน ไม่ได้หมายความว่าจะดึง 6 พรรคหรือไม่ดึง 6พรรค ตอนนี้ทั้ง 8 พรรคร่วมเดิมก็รับรู้เรียบร้อยแล้ว” นาย ภูมิธรรม กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้โทรศัพท์ไปหา เลขาธิการแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเดิมครบทุกพรรค และมีสาระสำคัญคือแจ้งแต่ละพรรคคือ พรรคเพื่อไทยได้แจ้งถึงเหตุผลและความจำเป็นในการจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วมครั้งนี้ กรณีพรรคร่วมอื่นจะตัดสินใจอย่างไร ว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมอย่างไรขอให้เป็นดุลยพินิจแต่ละพรรคหากเห็นว่าแนวทางของเพื่อไทยสามารถเข้าร่วมได้ พรรคเพื่อไทยก็ยินดีร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ส่วนการโหวตนายกฯของพรรคก้าวไกล จะโหวตช่วยพรรคเพื่อไทยหรือไม่อย่างไร เราได้แจ้งว่าเป็นเอกสิทธิ์ของพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) ช่วงบ่าย พรรคเพื่อไทยจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในการจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง
เมื่อถามว่า 6 พรรคร่วมเดิม ได้ตอบรับมาหรือไม่ว่าจะยังทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า บางพรรคตอบรับ บางพรรคก็ยังไม่มีท่าที ส่วนจะเป็นพรรคไหนขอให้รอดูวันพรุ่งนี้
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ ที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขั้นตอนการเลือกนายกฯ เรามั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ ได้รับเสียงเกิน 375 เสียง ได้นายกฯในนามพรรคเพื่อไทย และหลังจากนั้นเราจะมาจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้มีข้อจำกัดมากที่จะรวบรวมเสียงให้ได้มากพอตามที่เราต้องการ ก็จะพยายามหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด บนพื้นฐานของการทำงาน เชื่อว่านโยบายที่เรานำเสนอ พฤติกรรม และความรู้ความสามารถ ประกอบกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอยู่ในกติกาที่เห็นว่าการทำงานจริง เชื่อว่าเราจะสามารถแก้ปัญหาที่เป็นวิกฤตได้ และเรายินดีพร้อมตอบคำถามจากสังคมทุกอย่าง อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าวันที่ 4 ส.ค. จะได้นายกฯ
ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันว่าการตกลงกันครั้งนี้ของ พรรคเพื่อไทยและ พรรคก้าวไกลไม่ได้เกี๊ยะเซียะ แต่เราต่างคนต่างทำหน้าที่ และไม่คิดว่าการเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลจะต้องยืนตรงข้ามกันเสมอ ส่วนสิ่งที่เป็นไปไม่สำหรับพรรคเพื่อไทย คือเราไม่สนับสนุนแก้ มาตรา 112
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์บ้างหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า “พรุ่งนี้ทราบ”
Advertisement