ดื่มน้ำเยอะบางครั้งก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตจาก ภาวะน้ำเป็นพิษ เนื่องจากร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่เยอะอย่างรวดเร็ว
ดื่มน้ำวันละกี่แก้ว ถึงจะเหมาะสมและเพียงพอที่ร่างกายต้องการต่อวัน ในทางการแพทย์แนะนำเอาไว้ว่า ควรดื่มน้ำ 8-12 แก้วต่อวัน ถือเป็นปริมาณทีพอเหมาะ หรืออาจดื่มตามน้ำหนักตัวที่ผ่านการคำนวณมาแล้วสำหรับคนที่ต้องการควบคุมอาหาร หรือดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษ แต่รู้หรือไม่ว่าหากเรา ดื่มน้ำมาเกินไป ก็อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายจาก ภาวะน้ำเป็นพิษ ได้
ภาวะน้ำเป็นพิษ (Water intoxication or Water poisoning) เกิดจากการที่ดื่มน้ำมากจนเกินไป จนส่งผลให้สมองหยุดทำงานโดยชะงัก และส่งผลให้ปริมาณน้ำในเลือดมาก เนื่องจากน้ำสามารถเจือจางอิเล็กโทรไลต์ในเลือดของคุณโดยเฉพาะโซเดียม ซึ่งโดยปกติแล้ว โซเดียมช่วยปรับสมดุลของของเหลวระหว่างภายในและภายนอกเซลล์ เมื่อโซเดียมลดลงจากปริมาณการใช้น้ำที่มากจนเกิดภาวะโซเดียมในเลือดน้อยเกินแบบเจือจาง (Dilutional Hyponatremia) จึงส่งผลให้เกิดการบวม นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบต่อเซลล์สมอง ซึ่งอาจอันตายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ภาวะน้ำเป็นพิษ สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณดื่มน่ำมากกว่า 3 - 4 ลิตร ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยร่างกายจะส่งสัญญาณเหล่านี้เตือนให้คุณรู้ว่า หยุดเติมน้ำเข้ามาได้แล้ว
การได้รับน้ำมากเกินกว่าอัตราการขับถ่ายของไต จะมีผลทำให้เกิดภาวะ hypoosmolarity ส่งผลให้มึนงง ความคิดสับสน หมดสติ ชักและอาจเสียชีวิตได้ แต่เป็นภาวะที่เกิดได้ยากในคนปกติที่มีสุขภาพดี
ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เหมาะสมเพียงพอกับความต้องการของร่างกายเฉลี่ยวันละ 8-10 แก้ว (1.5-2 ลิตร/คน/วัน) หรือดื่มเพิ่มตามน้ำหนักตัว ช่วงหน้าร้อน ไม่ควรดื่มน้ำคราวเดียวทีละมากๆ แต่ควรจิบบ่อยๆ ตลอดวัน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการดื่มน้ำในหนึ่งวัน อาจเปลี่ยนแปลงได้บ้างเล็กน้อยตามความสะดวก เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ดื่มน้ำ 1 แก้ว หรือ 250 ซีซี
ตอนสาย ช่วงเวลาประมาณ 09.00-10.00 น. ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว
ตอนบ่าย ช่วงเวลาประมาณ 13.00-14.00 น. ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว
ตอนค่ำ ช่วงเวลาประมาณ 19.00-20.00 น. ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว
ก่อนเข้านอนดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้ตลอดทั้งวันร่างกายได้รับสารน้ำเพียงพอให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ กระเพาะอาหาร และถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยให้หลับสบายขึ้น
ข้อมูลจาก : hellokhunmor
Advertisement