อีกหนึ่งศิลปินตลกที่สร้างเสียงหัวเราะ และอารมณ์ดีให้กับแฟนอย่าง “แฮ็ค ชวนชื่น” ทั้งยังทำจิตอาสา เป็นกู้ภัย ช่วยเหลือสังคมอีก แต่ใครจะรู้ว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเกือบเอาชีวิตไม่รอด กลายเป็นผู้สูญเสียความทรงจำไป โดย
“แฮ็ค ชวนชื่น” ได้มาเปิดใจในรายการ APOP บันเทิง34 วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2560 เวลา 13.15 – 14.15 น. อัพเดตผลงานตอนนี้ว่า ขณะนี้มีผลงานละครอยู่ 2 เรื่อง พร้อมทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำมาหลายอย่าง ทั้งอู่แต่งรถ อีกทั้งยังร่วมทุนเปิดร้านข้าวมันไก่โก๊ะตี๋ ทำเครื่องเสียงให้เช่า แถมยังเคยไปโชว์ตัวที่ต่างประเทศมากว่า 10 ประเทศมาแล้ว โดยส่วนมากไปเป็นพิธีกรซะส่วนใหญ่
คุณแฮ็ค ชวนชื่น ยังเป็นอีกหนึ่งคนที่หันมาดูแลสุขภาพ จากเคยอ้วนลงพุง ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มสุขภาพดีมีซิกแพคภายในระยะเวลา 3 เดือน โดยเน้นเรื่องโภชนาการเป็นหลักถึง 70% คุณแฮ็คเล่าว่า จากที่เราเคยเล่นเวทจนร่างกายเราไม่ไหว ถ่ายละครไม่ได้ ก็เลยปรับเปลี่ยนมาเน้นเรื่องอาหารซะส่วนใหญ่ ไม่อยากปล่อยตัวเองให้อ้วน อีกทั้งยังมีแรงบันดาลใจเป็นนายแบบต่างชาติที่แม้อายุเยอะแล้วก็ยังมีหุ่นที่ดี สุขภาพดีอีกด้วย
แต่ก่อนที่จะมีสุขภาพดีแบบขนาดนี้ ครั้งหนึ่งคุณแฮ็ค ชวนชื่น เคยเฉียดตายด้วยอุบัติเหตุ สูญเสียความทรงจำไปด้วย คุณแฮ็คเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นซ้อมกีฬาอยู่ หลังจากอัดรายการชวนชื่นคาเฟ่จบ เล่นฟุตบอลกันอยู่ จังหวะที่โม่งลูกบอลทำให้หัวโขกกันกับเพื่อนอีกหนึ่งคน จนล้มหัวฟาดพื้น ตอนนั้นจำไม่ค่อยได้ หลังจากเตะฟุตบอลกันเสร็จก็ไปกินหมูกะทะด้วยกัน โดยเพื่อนมาเราให้เราฟังว่า ตัวเองนั่งคีบหมูกะทะใส่จานไปมา ไม่ยอมทาน ตอนนั้นเราไม่รู้ตัว พอกลับบ้านก็พูดขึ้นมาว่า “หิวจัง” เพื่อนในคณะก็แปลกใจ คิดว่าเราแกล้ง จนบ่นว่า “น่ารำคาญ”
ทางด้านโก๊ะตี๋ สังเกตพฤติกรรมที่ผิดปกติของเราได้ในขณะที่ขับรถกลับบ้านทางเดียวกัน เพราะโก๊ะตี๋ตั้งคำถามทดสอบเรา แต่เราตอบคำถามเขาไม่ได้เลย โก๊ะตี๋จึงพาเราไปส่งโรงพยาบาลได้ในที่สุด แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นภาวะแซ่ม้า เกิดการสะบัดหรือกระแทกอย่างรุนแรง กลายเป็นการสูญเสียความทรงจำในระยะสั้นๆ หรือแค่ช่วงเวลาหนึ่ง ช่วงที่เราป่วยอยู่เวลานึกถึงเหตุการณ์อะไรจะจำไม่ได้เลย แต่ภาวะก่อนหน้านั้นเราจำได้
สิ่งที่คุณแฮ็ค ชวนชื่นยังกังวลอยู่หนึ่งเรื่องคือ ยังทำให้พ่อแม่เป็นห่วงเราอยู่ เพราะเราค้นหาเป้าหมายในชีวิตไม่เจอ โดยเล่าว่า จริงๆเราไม่ได้อยากเป็นนักแสดงเพียงแต่เรามีโอกาสมาเราก็คว้าไว้ แต่ใจจริงแล้วอยากทำธุรกิจ จึงเลือกเรียนทางด้านการบริหารธุรกิจมาตลอด แต่ก็ขอบคุณอาชีพนักแสดงที่ทำให้เรามีวันนี้ ได้แสดงละคร ไปโชว์ตัวต่างประเทศ มีคนรู้จัก จนเรารักในการแสดง รักอาชีพตลกคาเฟ่ แต่แน่นอนว่าอาชีพในวงการมันไม่แน่นอน จากคนที่เคยอยู่จุดสูงสุดเมื่อเวลาผ่านไปอะไรก็ไม่แน่นอนอยู่ที่การบริหารจัดการชีวิตของแต่ละคน เลยอยากทำธุรกิจให้มั่นคง