หนุ่มกันทรลักษ์โหด แทงดับแฟนเก่า โมโหเห็นนั่งกินจิ้มจุ่มกับเพื่อนแต่เงิน 1 พันบาทไม่คืน พยานที่เกิดเหตุเผย ควักเงินเลี้ยงเอง ผู้ตายไม่ได้ออก
เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. ของวันที่ 19 สิงหาคม 2566 พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ ภาวะบุตร สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกแทงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าร้านค้าขายของชำ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร, พ.ต.ท.ชุมพร ฉัตร์สงวนชัย รอง.ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร, พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม รองผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร, พ.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ สวป.สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร, สืบสวนสภ.เมืองสมุทรสาคร, แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสมุทรสาคร (ชันสูตรพลิกศพ) เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
โดยที่เกิดเหตุเป็นตรงบริเวณหน้าร้านขายของชำใกล้กับโต๊ะม้าหินอ่อน พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง นอนหงายจมกองเลือด ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวปาริชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ภูมิลำเนา อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี มีอาชีพเป็นพนักงานปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบบาดแผลถูกมีดปอกผลไม้แทงเข้าที่บริเวณลำคอ หน้าอก แขนด้านซ้าย ไหล่ด้านขวา และลำตัวหลายแห่ง นอกจากนี้บนโต๊ะม้าหินอ่อนยังพบหม้อต้มจิ้มจุ่มวางอยู่พร้อมกับขวดเบียร์ที่ล้มระเนระนาด ส่วนใต้โต๊ะพบมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ในส่วนของผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือ นายมั่นคง สุขมณี อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ภายหลังก่อเหตุได้ปั่นรถจักรยานหลบหนีไปตามถนนพระราม 2 แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวไว้ได้พร้อมกับนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองสมุทรสาครซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายให้การยอมรับเป็นผู้ลงมือใช้มีดจ้วงแทงนางสาวปาริชาติที่เป็นอดีตแฟนสาวจริงส่วนสาเหตุมาจากความโกรธแค้นส่วนตัว
ด้านภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นก็สามารถบันทึกเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุไว้ได้ โดยนายมั่นคงสุขมณีอดีตแฟนของผู้เสียชีวิตและเป็นคนลงมือก่อเหตุอุกฉกรรจ์ฆ่านางสาวปาริชาตินั้นได้ปั่นจักรยานมาจอดตรงโต๊ะม้าหินอ่อนที่นางสาวปาริชาติกับเพื่อนๆ กำลังนั่งกินจิ้มจุ่มและดื่มเบียร์หลังเลิกงาน
โดยผู้ก่อเหตุจอดรถพูดคุยกับผู้เสียชีวิตสักพักหนึ่งจากนั้นจึงเดินไปหาผู้เสียชีวิตแล้วก็ใช้มีดแทงเข้าที่ลำคอกับลำตัวของผู้เสียชีวิตหลายครั้งต่อหน้าเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้วยกันทำให้เพื่อนๆ เกิดความตกใจพากันส่งเสียงกรีดร้องและวิ่งหลบหนี
ส่วนคนร้ายเดินกลับมาขึ้นจักรยานปั่นหลบหนีไป ขณะที่ทางด้านของนางสาวปาริชาติภายหลังจากถูกทำร้ายร่างกายแล้วก็ยังไม่เสียชีวิตในทันทียังนั่งอยู่บนม้าหินอ่อนตัวเดิมได้สักพักหนึ่งก่อนที่จะล้มลงไปที่พื้นสิ้นใจคาที่
นอกจากนี้จากคำบอกเล่าของพยานในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นพี่ที่ร่วมงานกับผู้เสียชีวิตก็เล่าว่า ผู้ตายเป็นคนร่าเริงสดใสทำงานที่ปั๊มน้ำมันไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นอดีตแฟนของผู้ตายที่ได้เลิกรากันไปราวๆ 1 เดือนแล้ว
โดยผู้ก่อเหตุมีลักษณะนิสัยค่อนข้างนิ่งเงียบดูอันตราย ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นผู้ตายและเพื่อนๆ รวม 5 คนได้มานั่งพูดคุยพร้อมกับทานอาหารกันหลังเลิกงานและมีการดื่มสังสรรค์กันนิดๆ หน่อยๆ
โดยช่วงที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่นั้น นายมั่นคงอดีตแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตก็ปั่นจักรยานมาแล้วก็จอดทวงเงินจากผู้เสียชีวิต แต่ผู้เสียชีวิตบอกยังไม่มีให้ ทำให้ผู้ก่อเหตุโกรธที่ถ้าไม่มีเงินแล้วมานั่งกินได้อย่างไร ซึ่งทางพี่ก็บอกไปว่าอันนี้พี่เป็นคนเลี้ยงไม่ใช่ให้ผู้เสียชีวิตออกเงิน
แต่พี่ได้ลงบัญชีไว้ก่อน เดี๋ยวสิ้นเดือนถึงจะจ่ายแต่คนร้ายไม่ยอมฟังยังคงเรียกร้องทวงเงินจากผู้เสียชีวิต 1,000 บาทก่อนที่จะลงมือก่อเหตุแทงผู้เสียชีวิตอย่างไม่ยั้งทั้งที่ลำคอและที่ท้อง
โดยก่อนหน้านี้ตอนที่ทั้งสองยังคบกันอยู่นั้น ผู้เสียชีวิตก็เคยถูกอดีตแฟนหนุ่มคนนี้ทำร้ายร่างกายและข่มขู่ว่าจะทำร้ายอีกจนถึงกับต้องไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วและก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกันจนเกิดเหตุฆ่ากันตายเช่นนี้