"พิธา" อวยพร "เศรษฐา" ลั่นวาจาเป็น นายกของประชาชน ขอทำได้อย่างที่พูด

"พิธา" ลุยฝน ขึ้นรถแห่ช่วย "โย พงศธร" หาเสียง ชาวแกลงแห่ต้อนรับตลอดเส้นทาง ย้ำ! แม้เป็นฝ่ายค้านก็เป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ยินดีพร้อมอวยพรให้ "เศรษฐา" ทำได้อย่างที่พูด

วันที่ 25 ส.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม นายพงศธร หรือ "โย" ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร สส. ระยอง เขต 3 เบอร์1 ในการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 10 กันยายน 2566 ได้ออกหาเสียง อย่างเข้มข้นมีกำหนดการการตระเวนหาเสียง ยาวต่อเนื่อง

โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย ของวันนี้ ขึ้นรถแห่หาเสียง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตลอดเส้นทาง นายพิธาและทีมงาน ต้องสวมใส่เสื้อกันฝนในการหาเสียง มีประชาชนพากันมาต้อนรับ ขอถ่ายภาพ และมอบของขวัญ ของที่ระลึก มอบพวงมาลัย อย่างคึกคัก

เส้นทางการหาเสียงเริ่มจาก ซอยบ้านนา 3 ชุมชนโพธิเงิน ชุมชนแหลมยาง ชุมชนดอนมะกอก ตลาดนัดหนองกะพ้อ ตลาดนัดวังหว้า โดยจอดรถลงทักทาย และเข้าพูดคุยกับ ประชาชน อย่างใกล้ชิดชนิดเคาะประตูบ้าน พร้อมรับฟังปัญหาต่างๆจากประชาชน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวว่า ขอยินดีกับนายกคนที่ 30 ของประเทศไทย ส่วนวิกฤตของบ้านเมืองตอนนี้ ไม่ใช่แต่วิกฤตเกี่ยวกับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม หรือ การศึกษา เป็นวิกฤตเกี่ยวกับการศรัทธาจากประชาชนด้วย โดยที่ผู้นำคนต่อไปจะต้องแก้ปัญหาโดยรวมเอาความคิดของคนในชาติกลับมารวมกัน และได้ฟังสัมภาษณ์ของคุณเศรษฐา ทวีสิน แล้วว่าต้องการเป็น นายกของประชาชน ก็ขออวยพรให้คุณเศรษฐาทำอย่างนั้นได้จริงๆ

จากการจับขั้วหลายขั้วของพรรคการเมือง คิดว่าการทำงานน่าจะยากเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่ได้เคยพูดคุยกับคุณเศรษฐา ทวีสิน ในเวทีดีเบต พูดถึงการสมรสเท่าเทียม และสุราก้าวหน้า ว่าใครมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งตนก็สำรวจหลายๆโพล ว่าจะผลักดันได้จริงๆ หรือไม่ ยังหวังว่าวิกฤตที่ประไทศได้รับผลกระทบจะได้รับการแก้ไข และก็จะได้กู้วิกฤตศรัทธากลับมาสู่การเมืองไทย

และถึงแม้ว่าจะเป็นฝ่ายค้าย ก็เป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่ยังมีหลายนโยบายที่สามารถผลักดันได้เพื่อให้ผลประโยชน์อยู่กับประชาชน ยืนยันว่าการทำงานเป็นฝ่ายค้าน คอยตรวจสอบและถ่วงดุลเพื่อให้รัฐบาลทำงานเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และปราบการคอรัปชั่นให้ได้มากที่สุด

ตอนนี้เป็นห่วงทุกกระทรวง อย่างเช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำมันรั่วปี 56 และ 65 ที่ระยอง วันนี้ตนก็มีช่วย คุณโย พงศกร ปราศรัยในเรื่องนี้ด้วย และก็ยังเป็นห่วงบุคลากรว่าเหมาะสมหรือไม่ และการทำงานแต่ละกระทรวง ซึ่งมาจากต่างพรรคกัน กังวลเรื่องการแก้ปัญหาเพราะแต่ละกระทรวงต้องทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งก็ยังเป็นห่วงว่าจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่