พ่อล้มทั้งยืนจับได้ลูก17 ปี พาแฟนขึ้นห้อง ค้นเจอซุกกัญชา-ยาคุม

25 ส.ค. 66

พ่อล้มทั้งยืน!จำใจต้องตีหลังจับได้ลูกสาววัย17 ปี พาแฟนหนุ่มขึ้นห้อง แถมค้นเจอซุกกัญชา ยาคุมกำเนิด

 

วันที่ 25 สิงหาคม 2566  เวลา 13.00 น. สภ.แม่สาย ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกผึ้งต่อย ที่บริเวณบ้านถ้ำ ซอย 6 หมู่ 3 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย  ทาง สภ.แม่สายได้ประสานไปยังกู้ภัยพรหมวิหาร รีบช่วยคนเจ็บด่วน ทีมกู้ภัยจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ

 

ที่เกิดเหตุเป็นหอพักขนาด 2 ชั้น มีห้องพักจำนวนหลายห้อง ชั้นล่างพบหญิงอายุ 17 ปี ยืนร้องไห้ ตรวจสอบร่างกาย ไม่พบร่องรอยถูกผึ้งต่อย จึงสอบถามไปกลับพบว่าที่แท้โอละพ่อ เด็กไม่ได้ถูกผึ้งต่อยแต่ถูกพ่อตี ซึ่งทำให้กู้ภัยสุดงงกับการรับแจ้งเหตุ  

 

บริเวณหน้าหอพักของหญิงวัย 17 ปี พบพ่อของหญิงสาว กำลังรื้อค้นห้องด้วยความโมโห 

 

ต่อมาทราบว่าพ่อได้แอบย่องมากับลูกชายอีกสองคนเพื่อมาดูลูกสาวว่าอยู่กับใครที่ห้อง เมื่อเข้ามาเปิดห้องดูพบว่าอยู่กับผู้ชาย จึงได้ไล่ตัวเด็กผู้ชายที่เป็นแฟนของน้องออกไป  พร้อมกับค้นภายในห้อง พบถุงกัญชาถุงใหญ่ 1 ถุง พร้อมอุปกรณ์เสพและยาคุมกำเนิด 

 

พ่อ เล่าว่าส่งลูกมาพักอยู่ที่หอพักดังกล่าว มาประมาณ 1 ปี  เพื่อให้เรียนหนังสือ โรงเรียนแห่งหนึ่งในหมู่บ้านถ้ำ ตอนนี้อยู่ ปวช.ปี2  โดยตนเองทราบว่าหอพักที่ลูกเช่าอยู่ ได้เช่าอยู่กับเพื่อนหญิงอีก 1 คน  ซึ่งตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา มีอาจารย์เคยโทรมาหา ว่าอยากให้มาดูลูกสาว มีพฤติกรรมไม่ไปเรียนหนังสือ อยากให้ว่ากล่าวตักเตือนลูกสาว ฉะนั้นจะเรียนไม่จบ

 

พ่อจึงเดินทางมาซุ่มดูกับพี่ชาย 2 คน กระทั่งมาเจอว่าลูกอยู่กับผู้ชาย อีกทั้งยังค้นในห้องมีการเสพกัญชา ด้วยความที่ตนเองไม่มีเวลาว่างต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ส่งให้ลูกเรียนจึงไม่มีเวลาดูแลลูกอย่างเต็มที่จึงส่งให้มาอยู่หอพัก

  

ด้านลุงเจ้าของหอพัก กล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นสาววัย17ปี พักอาศัยอยู่กับเพื่อนผู้หญิง 2 คน แต่ระยะ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา พบมีเพื่อนชายเข้า-ออกตลอดเวลา แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปทักอะไรเพราะถือเป็นสิทธิ์ส่วนตัว กระทั่งมารู้เหมือนกันว่าเด็กพี้กัญชาในห้อง

 

ซึ่งระหว่างที่สาว 17 นั่งอยู่ในรถกู้ภัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเกลี้ยกล่อมให้ฟังพ่อ และให้อยู่กับพ่อไปก่อน แต่น้องพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะไม่อยู่จะขอให้กู้ภัยไปส่งหาแฟนที่ถูกพ่อขับไล่ไปเมื่อสักครู่  ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงกล่อมน้องได้ ให้กลับไปอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อก่อน  และได้ชี้แจงว่าเด็กต่ำกว่าอายุ 18 ปี ต้องอยู่ในการดูแลของผู้ปกครอง หากมีใครรับตัวไปถือว่าผิดกฎหมายไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง

 

ด้านพ่อยังกล่าวอีกว่า เสียใจที่ไม่ได้อยู่ดูแลลูกอย่างใกล้ชิดเพราะต้องทำมาหากิน หลังจากนี้จะไปคุยกับคุณครู และจะพาตัวน้องไปอยู่หอในโรงเรียนดังกล่าว พร้อมอยากฝากเตือนผู้ปกครองไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าปล่อยปะละเลยลูกมากเกินไปควรเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดและติดตามพฤติกรรม.

 

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส