พระเลขารองเจ้าคณะอำเภอวัดดังในอยุธยา ยืนยันคลิปคอลเสียวช่วยตัวเองไม่ใช่ตน เชื่อถูกคนไม่หวังดีตัดต่อใส่ร้าย สภาพจิตใจตอนนี้เครียด เพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้
จากกรณีมีผู้ร้องเรียนมายังสื่อมวลชน กรณีมีคลิปวิดีโอคลิปหนึ่ง ลักษณะเหมือนการวิดีโอคอลกับผู้ชายผมเกรียน โกนคิ้ว ลักษณะคล้ายพระภิกษุสงฆ์ เปิดเผยหน้าตาอย่างชัดเจน แต่มีการถ่ายของลับตัวเอง ลักษณะคล้ายการช่วยเหลือตัวเอง โดยผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลว่า เป็นพระเลขาของรองเจ้าคณะอำเภอ จำพรรษาอยู่ที่วัดดังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงอยากให้มีการตรวจสอบ ถึงความเหมาะสม
วันนี้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยังวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับพระมหาศิริพล ผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจกับทีมข่าวว่า อาตมาเพิ่งจะได้มีการเห็นคลิปครั้งแรกวันนี้ตอนที่ผู้สื่อข่าวเปิดให้ดู ซึ่งมีหน้าตาลักษณะคล้ายกับตนเอง แต่มองว่าเป็นภาพตัดต่อ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ แต่ยืนยันว่าช่วงจังหวะคลิปที่เห็นหน้าคือตนเอง แต่ไม่มีการโชว์ของลับ และคาดว่าคลิปนี้อาจจะมีการตัดต่อ แต่ไม่ทราบเจตนา ในส่วนของผู้ที่นำเรื่องมาร้องเรียนหรือพยายามจะกล่าวหาตนเองว่ามีเจตนาอะไร
ยอมรับว่าตอนนี้มีความเครียด เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ก็พร้อมที่จะให้พระผู้ใหญ่ตรวจสอบ ถ้าเกิดความไม่พอใจหรือไม่สบายใจของชาวบ้าน ส่วนตัวพยายามคิดทบทวนว่า เคยมีปัญหากับใครหรือไม่ แต่ก็นึกไม่ออก เพราะไม่เคยมีปัญหากับใคร คิดว่าอาจจะเกิดความไม่ประสงค์ดีของผู้ที่ไม่หวังดี ในส่วนนี้ต้องขออภัยหากทำอะไรให้ใครไม่พอใจ เพราะถ้าจะทำให้ทุกคนมารักตัวเองได้ทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้ อยากจะฝากไปถึงผู้ไม่ประสงค์ดีให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเสียเถิด
ขณะเดียวกันทีมข่าวสอบถามนางจำปา (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ บอกกับทีมข่าวว่า จากที่ดูคลิปแล้ว ปรากฏชัดเจนว่าใบหน้ามีความคล้ายมาก แต่ไม่อยากฟันธง 100% เพราะก็ไม่แน่ใจว่าหลักฐานอันนี้ มีการตัดต่อหรือไม่ แต่ใบหน้าค่อนข้างชัดเจนว่าใช่
ส่วนตัวก็รู้สึกตกใจ เพราะเท่าที่รู้จักและเห็นจากภายนอก ก็จำวัดแห่งนี้มานกว่า 4 ปี ดูเป็นพระที่อายุน้อยแต่เก่ง มีความรู้ความสามารถและสุขุม ช่วยเหลืองานวัดได้ดี แต่ถ้าเป็นท่านจริงๆ ก็มองว่าไม่เหมาะสม เป็นพระเป็นเจ้า จะมาทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้วัดมีการตรวจสอบและตักเตือนกันไป
ด้านพระครูพิพัฒน์ ศาสนกิจจาธร เจ้าคณะตำบลภาชี ประธานฝ่ายปกครองคณะสงฆ์อำภาชี เปิดเผยว่า อาตมาได้เห็นหลักฐานคลิปทั้งหมดแล้ว ก็ยืนยันได้ว่า ภาพใบหน้าที่ปรากฏในคลิปคือ พระรายนี้จริง แต่ช่วงจังหวะที่มีการโชว์อวัยวะเพศที่กำลังช่วยตัวเองอยู่ ไม่ได้ปรากฏชัดว่าเห็นหน้าครบชัดเจน เรื่องนี้อาตมาจึงอยากให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ จนกว่าจะมีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบว่าเจ้าตัวยอมรับหรือไม่ หรือภาพเป็นคลิปตัดต่อ
และถ้าหากว่าเป็นพระรายนี้จริง เหตุการณ์นี้เป็นความผิดทางวินัยสงฆ์จริง แต่ไม่ได้ร้ายแรงถึงกับต้องปราชิก สิ้นสุดความเป็นพระ ซึ่งจะเป็นการตักเตือน และคาดโทษ โดยจะต้องปริวาสกรรม เป็นผู้ปฏิบัติ “สังฆาทิสเสก” จำนวน 9 คืน 10 วัน และต้องเตือนให้ระมัดระวัง เวลาที่จะมีการวิดีโอคอลกับใคร จะต้องแต่งกายให้เรียบร้อย เพราะวันนี้รักกัน วันหน้ามีปัญหากันก็อาจจะเอามาเป็นเครื่องมือทำร้ายกันก็เป็นไปได้ เพราะเราไม่รู้เจตนาคน
หลังจากนี้ ทางคณะกรรมการและเจ้าคณะตำบล จะมีการประสานงานพูดคุยกับทางเจ้าอาวาสเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่าง ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการภายในอาทิตย์นี้ เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจ และทราบถึงข้อเท็จจริง อนึ่งต้องขอขอบคุณ ที่ประชาชนร่วมด้วยช่วยกันตรวจสอบพระพุทธศาสนา