เยาวชน 16 ปี เหยื่อทรชนรุมโทรมเครียดหนักวิ่งให้รถไฟทับ หลังศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม โชคดีพลเมืองดีช่วยได้ทัน
จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6 ได้โพสต์รูปภาพและข้อความ 4 ผู้ต้องหา อายุระหว่าง 20-27 รุมโทรมนักเรียนสาวอายุ 16 ปี เหตุเกิดตั้งแต่ 28 เมษายน 2566 และผู้ต้องหารับสารภาพหมด ตำรวจไม่จับกุมเนื่องจากว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จนถึงทุกวันนี้ยังตั้งวงดื่มเหล้าน้ำท่อม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งบ้านของผู้ต้องหาอยู่ละแวกเดียวกับบ้านผู้เสียหาย แถมญาติๆ ฝั่งผู้ต้องหายังข่มขู่คุกคามจนผู้เสียหายเข้าโรงพยาบาลจิตเวชฯไปเป็นเดือนๆ หลังออกจากโรงพยาบาล ยังมายั่วยุพูดจาถากถาง ขู่จ้างทนายฟ้องกลับเพราะทำให้อับอาย และใช้ให้คนเอาเรื่องที่ผู้เสียหายถูกรุมโทรมไปปล่อยข่าวในโรงเรียนด้วย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความอับอาย จนไม่สามารถไปโรงเรียนได้
ความคืบหน้าล่าสุด พบว่า นักเรียนสาว 16 ปี ผู้เสียหาย พยายามจะฆ่าตัวตายโดยวิ่งให้รถไฟทับร่าง แต่มีพลเมืองดีมาช่วยไว้ได้ทัน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนวันที่ 12 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา หลังจากได้รับแจ้งเหตุจากอาสากู้ภัยฯ ก็รีบมาตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือ
โดยพบว่านักเรียนหญิงอยู่ในอาการเครียด จึงได้พาตัวกลับไปยังสถานีตำรวจเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนประสานให้รถพยาบาลจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามารับตัวกลับไปทำการรักษา ซึ่งเยาวชนหญิงหลังจากโดนกลุ่มทรชน 4 รายรุมโทรมจนเป็นข่าวดัง แต่คดีกลับไม่คืบหน้า แถมครอบครัวยังถูกฝ่ายผู้ก่อเหตุข่มขู่ จนต้องพาไปเก็บตัวที่เซฟต์เฮ้าส์ภายในตัวจังหวัดนครราชสีมาเพื่อความปลอดภัย ทำให้เยาวชนผู้เสียหายและครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวและเครียดอย่างมาก
และเมื่อมาทราบอีกว่ากลุ่มผู้ต้องหาปฏิเสธในชั้นศาล และยังได้รับการประกันตัวอีก ก็ยิ่งทำให้ผู้เสียหายเกรงกลัวความปลอดภัย ไม่สามารถอยู่ในพื้นที่บ้านของตัวเองได้ ประกอบกับเป็นผู้ป่วยซึมเศร้าตั้งแต่อายุ 12 ปี ไม่ได้ทานยาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาเกิดเหตุถูกรุมโทรม จึงกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก อาการเครียดกำเริบ คิดสั้นฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ และมาครั้งนี้พยายามจะวิ่งให้รถไฟทับตายอีก แต่โชคดีมีคนมาเห็นและช่วยไว้ได้ทันเสียก่อน
จากการตรวจสอบ ทราบว่าก่อนที่เยาวชนผู้เสียหายจะมาพยายามก่อเหตุฆ่าตัวตายวิ่งให้รถไฟทับร่าง ผู้เสียหายได้แช็ตไปคุยกับพยานคนหนึ่งในคดี เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี แต่หลังจากแช็ตคุยก็เกิดความเครียดและพูดย้ำๆว่า “ทำไมต้องเป็นตน ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับตน และพูดถึงเรื่องอื่นๆก่อนจะขว้างโทรศัพท์มือถือทิ้ง แล้วร้องไห้วิ่งออกมาหวังให้รถไฟทับเพื่อจบชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมจังหวัดฯ เพื่อส่งตัวเยาวชนหญิงเข้าไปการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ เพื่อประเมินอาการและลดอาการเครียด ก่อนส่งตัวเด็กกลับไปยังภูมิลำเนา ซึ่งขณะนี้ เยาวชนผู้เสียหายอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานคุ้มครองพยาน กระทรวงยุติธรรมแล้ว.