จากกรณี มีชาวบ้านพบตาน้ำผุดที่บ้านรกฟ้า ต.ด่านช้าง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยมีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในแต่ล่ะวันจะมีผู้คนที่ทราบข่าวเดินทางเข้ามารับชมความแปลกของธรรมชาติและตักน้ำใส่ภาชนะ เพื่อให้ผู้ที่มีความเชื่อนำกลับไปกราบไหว้บูชาและตักน้ำไปดื่ม บางคนก็นำไปทาตามจุดที่เจ็บป่วยตามความเชื่อ ขณะที่ชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมากราบไหว้บูชา และขอตักน้ำกลับไปรับประทาน บางรายก็เอาไปทาตามจุดที่เจ็บปวด เช่น เข่า หลัง และขา
ล่าสุด วันที่ 1 พ.ย. นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นพ.สาธารณสุขจ.นครราชสีมา นำตัวอย่างน้ำที่นำมาจากบ่อน้ำผุดดังกล่าว และผ่านการตรวจสอบวัตถุปนเปื้อนในห้องปฏิบัติการ ทำการชี้แจงโดยระบุว่า น้ำผุดที่ อ.บัวใหญ่นั้น น่าจะเป็นปรากฏการณ์ทางธีรณีวิทยา เหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่ อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะเป็นทางน้ำเดิม เมื่อมีสิ่งกีดขวางจึงเกิดน้ำสะสมใต้ดินมากขึ้น ทำให้มีน้ำผุดขึ้นมาอย่างที่เห็น
ขณะเดียวกันจุดที่พบน้ำผุดครั้งนี้ก็อยู่ใกล้สุขาของบ้านเรือนประชาชนเพียง 5 เมตร เท่านั้น จึงมั่นใจว่ามีการปนเปื้อนของแบคทีเรียอย่างแน่นอน จากการลงพื้นที่นำตัวอย่างมาตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ โดยการเพาะเชื้อด้วยน้ำยาเพาะเชื้อ พบว่ามีเชื้อโรคอีโคไลหรือโคลิฟอร์ม ที่ปนเปื้อนมากับอุจจาระ และน้ำก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วง หรือลำไส้อักเสบได้ และถ้าบางรายอาจรุนแรงถึงติดเชื้อในกระแสเลือด ขณะนี้กำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้ทราบที่มาของปรากฏการณ์น้ำผุดครั้งนี้ ประชาชนจะได้หายสงสัยเสียที