แม่ทัพภาค 4 ยัน ยังจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

7 พ.ย. 62
จากกรณีกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มป้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านทุ้งสะเดา หรือบ้าน ต.ลำพยา อ.เมือง จ.ยะลา มีผู้เสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บ 5 คนเมื่อเวลา  00.10 น.วันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงมาตรการการบังคับใช้กฏหมายพิเศษ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีการบุกยิงป้อม ชรบ.  ว่าการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่นั้น การพูดคุยเพื่อสร้างสันติสุขยังคงดำเนินการต่อไป แต่ทีมกำลังทหารที่เป็นการสั่งการอยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก ต้องบังคับใช้กฎหมาย โดยต้องใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งไม่ได้ใช้โดยฝ่ายมั่นคงเพียงฝ่ายเดียว แต่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของบ้านเป็นหลัก เข้าไปร่วมดำเนินการด้วยทุกครั้งที่มีการใช้กฎหมายพิเศษเข้าปิดล้อม ตรวจค้น เราบังคับกฎหมายอย่างเต็มที่ เหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่บ่งชี้ว่า กลุ่มคนร้ายยังไม่ละความพยายามในการก่อเหตุโดยไม่เลือกเป้าหมาย และยังคงย้อนแย้งกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ ที่พยายามเรียกร้องให้รัฐยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษ โดยไม่เคยคำนึงถึงผลกระทบทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ จึงขอให้สังคมช่วยกันเรียกร้อง และตรวจสอบพฤติกรรมขององค์กรเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพราะการแสดงตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ไม่ต่างจากอาชญากรที่กำลังละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงต่อพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี ที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบรอยเลือด หมวก เป้ ปลอกกระสุน และดีเอ็นเอ คาดว่า จะรู้กลุ่มที่ก่อเหตุได้ในไม่ช้า ตอนนี้ต้องขอเวลาตรวจสอบปลอกกระสุน และหลักฐานต่าง ๆ 2 วัน ผู้ก่อเหตุเองก็โดนยิงได้รับบาดเจ็บ เพราะว่าเราพบรอยเลือดกองใหญ่อยู่ที่เกิดเหตุด้วย ส่วนอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ก็ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุนำออกไปด้วยบางส่วน คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดิม ๆ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ