รมว.ยุติธรรม เผยย้าย ด.ช. 14 มือยิงที่พารากอน ไป สถาบันกัลยาณ์ แล้ว

6 ต.ค. 66

"รมว.ยุติธรรม" เปิดเผยว่า ด.ช.วัย 14 ปี ที่ก่อเหตุยิงที่สยามพารากอนถูกย้ายไปรักษา "สถาบันกัลยาณ์" แทนสถานพินิจฯ แล้ว หลังแพทย์ประเมินเบื้องต้น เข้าข่ายมีอาการสุขภาพจิต เห็นควรส่งแพทย์เฉพาะทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 66 ที่ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการรับตัว ด.ช.วัย 14 ปี ผู้ก่อเหตุกราดยิงห้างสยามพารากอน ซึ่งขณะนี้อยู่ในความควบคุมดูแลของกรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ว่า สถานพินิจฯ ได้มีกระบวนการรับตัว มีแพทย์ที่ตรวจและประเมินสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็ก ซึ่งรับทราบว่าเด็กชายไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างนี้จึงคงยังอยู่ในการดูแลของสถานพินิจฯ และตนได้รับแจ้งว่า เมื่อมีการตรวจประเมินสุขภาพจิตของเด็กชาย ทางทีมจิตแพทย์ที่ตรวจสอบเบื้องต้นมีความเห็นว่า เห็นควรส่งตัวเด็กชายไปเข้ารับการรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แต่ตนไม่ได้เห็นรายละเอียดชัดเจนว่า เด็กชายมีอาการทางจิตอย่างไร เป็นเพียงสรุปรายงานที่ได้รับทราบเท่านั้น 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า แม้ว่าเด็กชายจะถูกส่งตัวไปรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถเปิดเผยเรื่องอาการสุขภาพของเด็กได้ ขอให้เป็นไปตามความเห็นของแพทย์ อีกทั้งทางกรมพินิจฯ ก็ได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเข้าร่วมดูแลเด็ก ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย นอกจากนี้ ตนไม่ได้เน้นย้ำกำชับในเรื่องใดเป็นพิเศษแก่กรมพินิจฯ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะมีขั้นตอนการดำเนินการและรายงานให้ตนรับทราบต่อเนื่อง อีกทั้งเรื่องสำคัญอีกประการคือการที่เจ้าหน้าที่ของกรมพินิจฯ จะต้องลงพื้นที่ สืบเสาะ สืบสวนค้นหาสาเหตุที่ทำให้เด็กชายก่อเหตุดังกล่าว เพื่อที่เราจะได้ร่วมกันออกแบบกลไกป้องกันไม่ให้มีเด็กหรือเยาวชนก่อเหตุในลักษณะนี้ซ้ำขึ้นอีก 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า หากเด็กชายเข้ารับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางเสร็จสิ้นกระบวนการเป็นที่เรียบร้อย และเมื่อถึงวันนั้น แพทย์พิจารณาส่งกลับมายังสถานพินิจฯ ทางกรมพินิจฯ ก็จะมีโปรแกรมบำบัดฟื้นฟู เพื่อพัฒนาพฤตินิสัยซึ่งจะเป็นในส่วนที่เด็ก ๆ ภายในการดูแลของสถานพินิจฯ ทุกคนจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการศึกษา การพัฒนาวิชาชีพต่าง ๆ เป็นต้น

พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงการเยียวยาเหยื่อและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กราดยิง ว่า ทางกระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะได้มีการจ่ายเงินชดเชยเยียวยา ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ในกรณีของผู้เสียหายที่เสียชีวิต มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาตามกฎหมายสูงสุดรายละ 200,000 บาท ส่วนผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บมีสิทธิได้รับการเยียวยาเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ก็จะได้รับค่าชดเชยผู้เสียชีวิตจากกระทรวงยุติธรรมเช่นเดียวกัน และทั้งสองส่วนจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ว่าจะมีการจ่ายเงินชดเชย เยียวยาอย่างไรบ้าง แต่ยืนยันว่าเรามีการชดเชยเยียวยาให้แก่ผู้เสียหายและผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส