เมียนมา น้ำท่วมใหญ่ ในรอบ 59 ปี หลังมรสุมถล่มหลายเมืองอัมพาต

เมียนมาตอนใต้ น้ำท่วมใหญ่ ในรอบ 59 ปี หลังมรสุมถล่มหนัก ทำหลายเมืองอัมพาต เส้นทางเดินรถไฟเชื่อมต่อเมืองใหญ่ถูกต้อ ทำประชาชนต้องพลัดถิ่นราวหมื่น 

วันที่ 10 ต.ค. 66 นาย เล ฉ่วย ชิน อู เจ้าหน้าที่อาวุโส กระทรวงสวัสดิการสังคม บรรเทาทุกข์ และการตั้งถิ่นฐาน ประเทศเมียนมา กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องใน ภูมิภาคพะโคตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำให้เกิด น้ำท่วมในพื้นที่ราบต่ำของเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาคเจ็บ แต่พบว่าประชาชนมากกว่า 10,000 คน ต้องทิ้งบ้านของตนเอง ทั้งนี้สามารถบันทึกปริมาณน้ำฝนได้ 200 มิลลิเมตร หรือเกือบ 8 นิ้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 59 ปี ตามการระบุของกรมอุตุนิยมวิทยาของ เมียนมา โดยพื้นที่เกือบทั้งหมดของเมืองถูกน้ำท่าม 

ด้านนาย ทัด ซิน หม่อง ประธานมูลนิธิองค์กรการกุศล Mizzima Thukha กล่าวว่า นี่เป็น น้ำท่วมเมืองครั้งที่ 3 ในปีนี้ และเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี วัดทุกแห่งในเมืองเปิดเป็นค่ายบรรเทาทุกข์ องค์กรการกุศลกำลังอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ราบต่ำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่ง อายุ 55 ปี จากเขตปานหล่าย ของเมืองพะโค ให้สัมภาษณ์ว่า ในละแวกบ้านของเธอน้ำท่วมลึกราว 5-6 ฟุต สมาชิกในครอบครัวต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ของบ้าน ระดับน้ำในละแวกบ้านของเธอยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่นี้ไม่เคยท่วมหนักเช่นนี้มาก่อน 

ฟากนาย เล ถ่วย ชิ อู เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสวัสดิการสังคม กล่าวว่า ประชาชนต้องหลบภัยอยู่ตามค่ายบรรเทาทุกข์ โรงเรียน และวัดต่างๆ ในเมืองพะโค 32 แห่ง ขณะนี้ทางการกำลังจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และความช่วยเหลือที่จำเป็นต่างๆ รถไฟที่ออกจากเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ และจากเมืองมะละแหม่ง ทางตอนใต้ ต้องหยุดชะงักลงระหว่างเดินทาง ส่วนเส้นทางที่เดินทางออกจากนครย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของประเทสถูกยกเลิก หลังจากเส้นทางรถไฟถูกน้ำท่วม จากกระแสน้ำเชี่ยวกรากจากภูเขา และน้ำที่ลันจากเขื่อนในภูมิภาคพะโค 

ทั้งนี้รายงานข่าวจาก เมียนมา ระบุว่า บางเมืองของรัฐมอญ ทางตอนใต้ถูกน้ำท่วมจากน้ำที่ไหลหลากลงจากภูเขา และประชาชน 555 คน ต้องอาศัยหลบภัยในค่ายบรรเทาทุกข์ 3 แห่ง ซึ่งเดือน ก.ค. และเดือนส.ค. ปีนี้ เกิดน้ำท่วมในรัฐมอญ รัฐกะเหรี่ยง รัฐยะไข่ ภูมิภาคพะโค และภูมิภาคมะเกา โดยมีผู้เสียชีวิต 5 คน และทำให้มีผู้พลัดถิ่นราว 60,000 คน