ยายอายุ 75 ปี ถูกมิจฉาชีพส่งข้อความมาจีบ คุยกันอยู่ไม่กี่วันเกิดความเชื่อใจกัน ก่อนชวนลงทุนหลงเชื่อโอนเงินไปให้มิจฉาชีพกว่า 18 ล้านบาท
11 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ ลูกชายของคุณยายท่านหนึ่ง โดยลูกชายเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2566 คุณแม่ได้ชวนตนเองลงทุนธุรกิจหนึ่ง โดยบอกว่าถ้าลงทุน 1 ล้านบาท จะได้เงินปันผล 2 ล้านบาท ตนเองจึงบอกแม่ไปว่า “แม่อย่าไปเชื่อนะ มันคือมิจฉาชีพ ไม่มีที่ไหนหรอกจะได้กำไรเยอะขนาดนั้น” จากนั้นแม่ก็เงียบ ไม่ได้พูดอะไร
ต่อมาประมาณเดือนสิงหาคม แม่ได้มาขอยืมเงินตนเองกับน้องชายคนละ 1 ล้านบาท บอกว่าจะเอาเงินไปใช้ทำธุระ ตนกับน้องจึงให้ไป ต่อมาแม่ก็พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน และแม่ได้ไปหายืมเงินจากญาติพี่น้อง ตนเองจึงรู้สึกแปลกใจ เพราะแม่ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงินเลย มีแต่ญาติๆ ที่มาคอยเงินยืมแม่
กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนเองมาจับได้ว่า แม่แอบโอนเงินให้กับมิจฉาชีพไปกว่า 18 ล้านบาท แต่แม่ก็ยังไม่เชื่อว่าถูกหลอก ตนเองต้องให้เพื่อนที่เป็นตำรวจมาคุยกับแม่ และเปิดคลิปกลโกงของมิจฉาชีพให้แม่ดู แม่ถึงเชื่อและยอมไปแจ้งความเอาผิดกับมิจฉาชีพรายนี้
โดยแม่เล่าให้ตนเองฟังว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 มีผู้ชายที่ชื่อ นายทวีศักดิ์ หรือ ตี๋ ทักมาหาแม่ทางข้อความเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าทักผิดคน จากนั้นนายทวีศักดิ์ ก็ชวนคุยด้วย และถามโน้นถามนี่ แม่ก็ตอบไป จากนั้นก็ทักมาคุยกับแม่ทั้งวันทั้งคืน จนทำให้แม่เชื่อใจ ให้เบอร์โทรศัพท์กับไอดีไลน์ไป
จากนั้นก็คุยกับนายทวีศักดิ์เรื่อยมา จนมาเมื่อวันที่ 10 นายทวีศักดิ์ได้ชวนแม่ลงทุน โดยอ้างชื่อว่าลงทุนที่ “โกลด์ฟิวเจอร์” บอกว่าจะได้ค่าตอบแทนสูง แม่จึงมาชวนตนกับน้องชายไปลงทุน (แต่ตนเองบอกแม่ว่าเป็นมิจฉาชีพแน่ๆ อย่าไปเชื่อ) แต่แม่ไม่ฟัง
วันที่ 13 กรกฎาคม แม่ได้โอนเงินไปให้นายทวีศักดิ์ จำนวน 100,000 บาท และได้โอนเงินไปให้เรื่อยๆ พอเงินหมดก็เอาทองคำกับเครื่องเพชรไปขาย และได้ไปหยิบยืมจากญาติๆ จนถึงยอดกว่า 18 ล้านบาท ตอนนั้นแม่บอกว่า แม่หลงเขามาก เขาพูดอะไรแม่ก็เชื่อหมด ที่เชื่อใจเขา เพราะเขารู้จุดอ่อนแม่ ตอนแม่ป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล เขาก็ส่งดอกไม้มาให้ถึงโรงแรม เงินที่แม่โอนไปมีทั้งหมดโอนไป 17 ครั้ง 15 บัญชี แต่ละบัญชีชื่อไม่ซ้ำกัน จะมียอดใหญ่ 2 ยอด ที่ต้องไปโอนที่ธนาคาร เนื่องจากเป็นยอดสูง 4,500,000 บาท ไม่สามารถโอนผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้
เมื่อลูกชายจับได้แล้วว่าแม่ถูกมิจฉาชีพหลอก ลูกชายจึงโทรศัพท์ไปหามิจฉาชีพ และพูดคุยกับมิจฉาชีพ พอลูกชายผู้เสียหายถามว่า มีเอกสารการลงทุนหรือเปล่า มิจฉาชีพก็ตอบเพียง “ครับๆ” เดี๋ยวส่งให้ แถมทิ้งท้ายว่า ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวส่งเอกสารให้ทั้งหมด
ในคลิปจะเห็นว่า มิจฉาชีพดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลย เรื่องนี้ลูกชายผู้เสียหายพยายามตามสืบเองว่ามิจฉาชีพเป็นใคร โดยตามจากร้านดอกไม้ที่มิจฉาชีพส่งมาให้แม่ตอนป่วย แต่ทางเจ้าของร้านดอกไม้ กลับไม่ยอมบอกข้อมูลลูกค้า ให้เหตุผลว่าให้ไปนำหมายจากตำรวจมาถึงจะให้
สุดท้ายนี้ ตนเองอยากออกมาเตือนภัย ให้เอาใจใส่ผู้สูงอายุที่อยู่เพียงลำพัง อาจต้องเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ง่ายๆ ขนาดตนเองกับน้องชายอยู่บ้านเดียวกับแม่ มิจฉาชีพยังหาช่องทางหลอกแม่ได้เลย