ที่สถาบันบำราศนราดูร ในขณะนี้มีความพร้อมที่จะตรวจร่างกายและสุขภาพจิตของแรงงานไทยที่กำลังเดินทางจากอิสราเอลกลับมาถึงประเทศไทยในวันนี้
12 ต.ค. 66 เวลา 10.00 น ที่สถาบันบำราศนราดูรได้จัดเตรียมความพร้อมในการรับแรงงานไทย 15 คน ที่เดินทางจากอิสราเอลมาประเทศไทยในวันนี้ โดยมีการจัดพื้นที่ บริเวณอาคารกักกัน กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค กรมควบคุมโรค โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้จัดจุดคัดกรอง เตรียมความพร้อมในการตรวจสุขภาพโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาดูแล อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข โดยเป้าหมายในครั้งนี้ เพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งผู้ที่เดินทางกลับมาอาจจะมีความเสี่ยงในโรคต่าง ๆ การตรวจสุขภาพเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
โดยเมื่อแรงงานเข้ามาถึงจะได้รับเป็นกระเป๋า ถุงยังชีพ เบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ จำนวน 15 ชุด โดยภายในประกอบไปด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กสำเร็จรูป น้ำผลไม้ น้ำดื่ม ยารักษาโรค และผ้าห่ม
ด้านสำนักงานประกันสังคม ได้จัดเตรียมถุงยังชีพไว้มอบให้กับแรงงานเช่นกัน มีทั้งข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 แพ็ค ปลากระป๋อง 1 แพ็ค นม ยาสระผม ผ้าขนหนู และเครื่องนอน เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ไว้ใช้กรณีมีความจำเป็นที่ต้องเข้ารับการกักกันโรค แล้วอาจจะต้องพักอยู่ภายในอาคารกักโรค สถาบันบำราศนราดูร
ซึ่งหลังจากนั้น แรงงานจะไปยังจุดคัดกรองสุขภาพ โดยมีการตรวจสุขภาพร่างกายเบื้องต้น แล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสุขภาพจิต จากนั้นจะไปสู่ขั้นตอนตรวจสอบสมาชิกกองทุนและความคุ้มครอง โดยแรงงานจะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นรายละ 15,000 บาท
โดยนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถายากร อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยอย่างสถานที่จุดคัดกรอง เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา
ด้านนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถายากร อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยกล่าวว่า หลังจากที่แรงงานเดินทางมาถึงจะต้องมีการตรวจสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจ จากการได้รับรายงานเบื้องต้นแรงงานได้รับบาดเจ็บประมาณสองรายซึ่งอาจจะถูกยิงหรือไม่นั้นก็ต้องรอการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาการทั้งสองรายตอนนี้อยู่ในขั้นปลอดภัย แต่ก็ต้องตรวจเบื้องต้นว่าจะต้องนอนที่โรงพยาบาลต่อหรือไม่ ซึ่งทางหน่วยงานก็พร้อมที่จะรับแอดมิดทันที
ส่วนด้านสุขภาพจิตจะให้แพทย์มีการตรวจสภาวะเรื่องของจิตใจ โดยจะมีการประเมินอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยสามเดือน เพราะความกังวลของแพทย์ แต่ครั้งนี้ไม่มีโรคติดต่อที่ร้ายแรง จะเน้นไปในเรื่องของปัญหาสุขภาพจิตของแรงงานถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
นอกจากกระทรวงสาธนาสุข ก็จะมีกระทรวงแรงงาน ประกันสังคม สถานกงสุล ที่จะมีการทำงานร่วมกันเป็นแบบ one stop service ที่จะจัดการในเรื่องของสิทธิประโยชน์ต่างๆของผู้ได้รับผลกระทบ
นอกจากด้านแรงงานแล้วเราจะต้องดูแลในเรื่องของญาติแรงงานที่จะเดินทางมาในครั้งนี้ เพราะถ้าหากว่ามีแรงงานที่จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ต่อและทางญาติไม่มีที่พักซึ่งทางหน่วยงานก็จะจัดทั้งที่พักให้กับญาติแรงงานเช่นกัน
ส่วนในขั้นต่อไปที่จะมีแรงงานเดินทางกลับมาอีก 5,000 คน สามารถผ่านการตรวจสอบ ในการควบคุมโรคจากสนามบินได้เลย เพราะว่าประเทศอิสราเอลจะมีการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีโรคติดต่อที่ร้ายแรงระบาด ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นจะต้องมีการกักตัวที่กรมควบคุมโรคแห่งนี้