เปิดภาพ "ป้ามะลิ" นางมะลิ ภาคาภร วัย 80 ปี ทายาทท้าวทองกีบม้า ผู้สืบทอดสูตรขนมไทยโบราณ
คนไทยทราบกันดีว่าขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง คนต้นคิดคือ “ท้าวทองกีบม้า” หรือ มารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา แต่มักเป็นที่รู้จักในชื่อ แต่มักเป็นที่รู้จักในชื่อ มารี กีมาร์ หรือ มารี ตองกีมาร์ เธอเป็นภรรยาของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ขุนนางชาวกรีกอันเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ชีวิตของ ท้าวทองกีบม้า ต้องตกระกำลำบากหลังสิ้นสุดแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเริ่มต้นรัชกาลพระเพทราชา เจ้าพระยาวิชเยนทร์ผู้เป็นสามี ถูกตัดสินประหารชีวิตและริบราชบาตร ส่วนมารี กีมาร์ สิ้นเนื้อประดาตัว และถูกคุมขังในคุกหลวง ต้องทนทุกข์แสนสาหัส ก่อนจะมีชีวิตที่ดีขึ้นในรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ทรงโปรดเกล้าให้มารี กีมาร์เข้ามารับราชการฝ่ายใน
มารี กีมาร์ หรือ ท้าวทองกีบม้า ได้สมญาว่าเป็น “ราชินีแห่งขนมไทย” ขนมที่เชื่อว่าเธอเป็นต้นคิดทำขึ้น ได้แก่ ทองม้วน, ทองหยิบ, ทองหยอด, ทองพลุ, ทองโปร่ง, ฝอยทอง, กะหรี่ปั๊บ, ขนมหม้อแกง, สังขยา, ขนมผิง, สัมปันนี, ขนมขิง, ขนมไข่เต่า, ลูกชุบ
ปัจจุบันหนึ่งในบรรดาต้นตำรับขนมท้าวทองกีบม้า คือ ขนมไทยของ นางมะลิ ภาคาภร อายุ 80 ปี ที่ ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจากหมู่บ้านญี่ปุ่นและโปรตุเกส ประมาณ 1 กิโลเมตร
คุณป้ามะลิ ถือเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดชุมชนเครือญาติท้าวทองกีบม้า ปัจจุบันได้ตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนขนมไทย ต้นตำรับท้าวทองกีบม้า มีสมาชิกที่เป็นเครือญาติช่วยกันทำขนมโดยยังยึดแบบโบราณ และยังได้รับมอบปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2563-2564 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
คุณป้ามะลิ นอกจากจะทำขนมขายแล้ว ยังช่วยถ่ายทอด อบรมสูตรขนมไทยโบราณให้กับคนรุ่นใหม่ ไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลา นับเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในวงการขนมไทยและเป็นปูชนียบุคคลทรงคุณค่าของชาวพระนครศรีอยุธยา