รวบ ไฮโซเก๊ นักต้มตุ๋นมือโปรเป็นภัยร้ายของหญิงสาวในโลกออนไลน์ เหยื่อรายไหนมีฐานะก็จะถูกยืมเงินหลักล้าน แต่ถ้าคนไหนดูไม่รวย 180 บาท ก็ให้โอน
ธนาธร หรือมีน vogue ไฮโซเก๊นัก ต้มตุ๋น มีแผนประทุษกรรมใช้ใบหน้าหล่อเหลาของตัวเอง สร้างโปรไฟล์ในเพจเป็นหนุ่มไฮโซ เป็น CEO บริษัทสร้างบ้าน และกรรมการสำนักงานกฎหมาย คลังภาพอวดนาฬิกาเรือนแพง และมีรถหรู อีกทั้งอ้างว่ารู้จักไฮโซคนดังหรือผู้มีอำนาจ ลวงเหล่าบรรดาหญิงสาวในโซเชียลว่าได้เจอชายในฝันรักจริง และเมื่อนัดพบบางรายถูกลักเอาทรัพย์สิน ยืมเงิน โดยล่าสุดเหยื่อฐานะไม่ดีจะขอยืมเงิน 180 บาท โดยหลอกว่าเป็นค่าน้ำมันเพื่อขับรถไปรับ และเมื่อเหยื่อโอนเงินให้ก็ปล่อยทิ้งให้เธอยืนรอพบอยู่เป็นเวลา 6 ชั่วโมง จากการสืบสวนพบว่าก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 30 ราย ความเสียหายกว่าล้านบาท
ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมนักสืบมือดีของสืบนครบาลไล่ล่าและยังได้ความร่วมมือจากเพจชื่อดังร่วมกันติดตามไล่ล่าจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ “ขณะกำลังจะก่อเหตุ” ขอรถของเหยื่อรายล่าสุด
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุด PCT 5 ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ได้ร่วมกันสืบสวนจับกุม
นายกฤติเดช พงษ์ประภาส (ชื่อเดิม ธนาธร จิตตา) หรือ ธร , มีน , มิน , อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 352 ซ.ริมทางรถไฟบางซื่อ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ
1.หมายจับศาลอาญาที่ จ.11/2566 ลงวันที่ 7 ม.ค. 66 ข้อหา “ลักทรัพย์ใน” (พื้นที่ สน.มีนบุรี)
2.หมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ จ.78/2566 ลงวันที่ 24 ม.ค. 66 ข้อหา “ปลอมเอกสารราชการ หรือใช้เอกสารราชการปลอม และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (พื้นที่ สภ.เมืองเชียงราย)
โดยนายธนาธร หรือ เสี่ยมีน vogue เจ้าตัวเป็นเด็กหนุ่มที่มีหน้าตาดี สร้างโปรไฟล์ในโลกโซเชียลเป็น “ไฮโซ” ทำทีถ่ายรูปกับรถหรูซึ่งไม่ใช่รถยนต์ตัวเอง หรือการโชว์สลิปการโอนเงินเยอะ ๆ หรืออวดนาฬิกาเรือนแพง ขณะอยู่หลังพวกมาลัยรถหรู และอื่น ๆ มากมายที่เจ้าตัวจะสรรหามาทำ เพื่อประกาศความรวยของตัวเองในโลกโซเชียล อีกทั้งเจ้าตัวยังตามเป็นเพื่อนกับเพจของไฮโซคนดังที่มีตัวตนอยู่จริง เพื่อมาให้โปรไฟล์ของตัวเองมีความน่าเชื่อถือ ก่อนจะตระเวนคุยกับหญิงสาวในโลกโซเชียล ทำให้ความสัมพันธ์เจ้าตัวกับเหยื่อก้าวไปสู่การนัดพบเจอได้อย่างง่ายโดยเมื่อถึงระดับการนัดพบ คนร้ายจะแต่งตัวดี ดูมีฐานะ เสมือนเป็นไฮโซจริง มีทักษะในการสนทนาที่จะมักอวดอ้างว่าตนรู้จักไฮโซคนดังหรือผู้มีอำนาจ ในการนัดพบครั้งแรก ๆ มักพาเหยื่อหญิงสาวไป “เข้าวัดทำบุญ” สร้างภาพเป็นหนุ่มไฮโซหล่อรวย จิตใจสายบุญ เรียกได้ว่าทักษะการสร้างความประทับใจแรกต่อหญิงมีความชำนาญมาก พาเอาเหล่าบรรดาหญิงสาวเคลิบเคลิ้ม มโนไปว่าได้เจอชายในฝัน แต่เมื่อได้คบหากันพักหนึ่งก็จะเข้าสู่กระบวนการหลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์สิน โดยการเชือดอย่างไรนั้นจะขึ้นกับสถานการในความสัมพันธ์ทั้งสองในโซเชี่ยล แต่โดยส่วนใหญ่เหยื่อลักทรัพย์ หากเหยื่อหญิงสาวบางรายไหวตัวและเริ่มตีตัวออกห่าง ก็มักขโมยของขโมยทรัพย์สินต่าง ๆ ของเหยื่อ บางรายถูกยกตู้ ยกทีวี โดยเหยื่อรายบางรายเมื่อคนร้ายรู้ว่าเธอมีฐานะไม่ดี ก็ยังโทรมาขอยืมเงินเธออีก 180 บาท โดยหลอกว่าเป็นค่าน้ำมันเพื่อขับรถไปรับ และเมื่อเหยื่อโอนเงินให้ก็ปล่อยทิ้งให้เธอยืนรอพบอยู่เป็นเวลา 6 ชั่วโมง โดยคนร้ายรายนี้ตระเวนก่อเหตุในลักษณะนี้เป็นเวลาหลายปี ผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท
พบประวัติต้องก่อเหตุมาแล้วกว่า 8 คดี (และอีกไม่ต่ำกว่า 5 คดี ผู้เสียหายไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี)
1.วันที่ 11 ก.ค. 58 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พื้นที่ สน.ดุสิต
2.วันที่ 31 มี.ค. 59 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พื้นที่ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
3.วันที่ 23 ก.ค. 59 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สน.มีนบุรี
4.วันที่ 26 เม.ย. 60 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์
5.วันที่ 19 มี.ค. 64 ก่อเหตุ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมฯ พื้นที่ สภ.เมืองเชียงราย
6.วันที่ 11 พ.ย. 64 ก่อเหตุ ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมฯ พื้นที่ สน.สายไหม
7.วันที่ 31 ธ.ค. 64 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ พื้นที่ สน.มีนบุรี
8.วันที่ 6 เม.ย. 65 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สน.ลุมพินี
โดยคดีนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เร่งสั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สืบสวนแกะรอย ซึ่งไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อคนร้ายมีทักษะประสบการณ์ก่อเหตุที่แยบยล และยังหลบหนีการจับกุมได้ หลังเคยถูกจับกุมมาหลายครั้ง เรียกได้ว่าหายไปในกลีบเมฆชนิดไร้ร่องรอย กระทั่งชุดสืบสวนได้เบาะแสจากเพจ “บิ๊กเกรียน” ให้เบาะแสสำคัญจากเหยื่อรายหนึ่ง ซึ่งได้พบเห็นคนร้ายวิ่งออกกำลังกายอยู่ในสวนรถไฟ กรุงเทพฯ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงนำกำลังติดตามเบาะแสจนได้พบกับ “เหยื่อรายล่าสุด” ซึ่งกำลังคบกับคนร้ายอยู่ ซึ่งชุดสืบสวนได้เบาะแสว่าคนร้ายกำลังจะหลอกเอารถยนต์ของเธอไปจำนำย่านเพชรเกษม โดยในการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ทราบเพียงเบาะแสว่าคนร้ายอยู่ละแวกสวนรถไฟ ก่อนนำกำลังปูพรมทั่วพื้นที่กว่า 7 ชั่วโมง กระทั่งวันที่ 27 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 16.00 น. จึงสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ โดยจับกุมตัวได้ที่ ซอยวิภาวดีรังสิต 17 แยก 10 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร จ.กรุงเทพฯ ขณะที่คนร้ายกำลังจะพาเหยื่อรายล่าสุดลวงให้เหยื่อนำรถไปจำนำ ได้อย่างทันควัน
ในชั้นจับกุม นายกฤติเดช พงษ์ประภาส (ชื่อเดิม ธนาธร จิตตา) ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชีวิตของตนลำบาก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ทำให้ขาดคนสั่งสอน เกิดความหลงผิด ลองผิดลองถูกเอง ตนเป็นหนุ่มหน้าตาดี ชอบถ่ายรูปกับรถหรู เป็นหนุ่มโปรไฟล์ดีในโลกออนไลน์ เลยมีผู้หญิงเข้ามาเยอะ ตนจึงมีแฟนหลายคน คบซ้อนพร้อมกัน 4 - 5 คน เมื่อมีผู้หญิงเข้ามาก็จะทำทีคบหากันเพื่อหลอกยืมเงิน โดยเคยยืมสูงสุดหลักล้าน เพื่อไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด ทำให้ชีวิตเกิดปัญหา เครียดไม่มีเงิน เกิดปัญหาชีวิตเรื่อยมา ส่วนเรื่องที่ถูกจับตอนนั้นปี 63 ตนได้ทะเลาะกับผู้หญิงคนนึงเรื่องยืมเงิน จนทำให้โทรทัศน์ในห้องผู้หญิงคนนั้นพัง จึงยกออกไปขาย ยืนยันไม่ได้ขโมย ส่วนเรื่องคดีอื่น ๆ ก็เป็นคดีเกี่ยวกับซื้อขายรถ ตนพยายามเคลียร์จนหมดแล้ว พร้อมเปิดหน้าเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และอยากเตือนผู้หญิงในโลกออนไลน์ว่า อย่ามองคนที่ภายนอก เพราะความจริงอาจจะไม่เหมือนที่เห็นในโลกออนไลน์ และขอให้สัญญากับเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อพ้นโทษจะกลับตัวเป็นคนดี” ชช หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของภัยสังคมรายนี้ จากการขยายผลการจับกุมในขณะนี้เราพบพยานหลักฐานและพบข้อมูลเหยื่อและผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่ออีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ให้แจ้งมาที่เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เราจะปกปิดข้อมูลของคุณเป็นความลับ แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”