น้าแต ผิดหวังศาลเลื่อนคำตัดสินคดีน้องชมพู่ เพราะตั้งตารอมานาน

น้าแต ผิดหวังศาลเลื่อนคำตัดสินคดี น้องชมพู่ เพราะตั้งตารอมานาน ยอมรับตั้งแต่เกิดเรื่องครอบครัวแตกแยก - ตัวเองก็เคยถูกตราหน้าฆ่าหลาน

กรณีที่ศาลจังหวัดมุกดาหารนัด ฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไชย์ พล วิภา หรือลุงพล และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น สองสามีภรรยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ฟ้องนายไชย์พล จำเลยที่ 1 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร, ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปีไว้ ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย, ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทําให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ต่อมาศาลมุกดาหารเลื่อนอ่านคดีเนื่องจากตรวจร่างคำพิพากษายังไม่แล้วเสร็จ

ด้าน นายณรินทร์ หลาบโพธิ์ หรือ น้าแต น้าของน้องชมพู่ ซึ่งเป็นอีกคนที่รอคอยการตัดสินคดีนี้ มานานกว่า 3 ปี 5 เดือน และรอฟังคำพิพากษาในวันที่ 31 ตุลาคม พอทราบข่าวว่า ศาลจังหวัดมุกดาหารจะเลื่อนอ่านคำพิพากษาในคดี ก็ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังเพราะตั้งตารอมานานมาก

เพราะคดีที่เกิดขึ้นกระทบกับครอบครัวโดยตรง ทำให้เกิดความแตกแยก พี่น้องมองหน้ากันไม่ติด  นอกจากนี้ส่วนตัวน้าแต ยังได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะครั้งหนึ่งเคยตกเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าว่าเป็นคนฆ่าหลาน จนทำให้ไม่สามารถทำมาหากินด้วยการขายของผ่านทางออนไลน์ได้ ไม่สามารถไปเป็นวิทยากรได้ เพราะขาดความน่าเชื่อถือ

ดังนั้นจึงมองว่าหากมีคำตัดสินของศาลออกมา สังคมจะได้รู้ความจริงว่สอะไรเป็นอะไร แล้วตรงนี้ก็จะสามารถยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ด้วย

แต่ถึงอย่างไร กรณีศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาแล้ว ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ตัวเองในฐานะคนในครอบครัว ก็สามารถรอได้ เพราะที่ผ่านมาก็รอวันนั้นมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ในครอบครัวก็ได้มีการพูดคุยกันว่าในวันตัดสิน ตาชาญ ยายสมควร น้าต่าย น้าฝน และตัวเอง จะไม่เดินทางไปเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษา เพราะทั้ง 2 ฝ่าย เป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา ซึ่งผลคำตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ความสัมพันธ์ในสายเลือดก็ตัดกันไม่ขาด และเพื่อไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องรู้สึกไม่ดี จึงตกลงกันว่าจะขอติดตามข่าวอยู่ที่บ้าน แล้วไม่ว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหน ครอบครัวก็พร้อมที่จะซับพอร์ตซึ่งกันและกัน.