ยายโหด! ล่ามโซ่หลาน เพราะไม่ให้ไปเล่น

13 พ.ย. 66

ยายล่ามโซ่หลาน และมีการใช้ไม้ และใช้โซ่ตี ทำให้เด็กกลัวจนฉี่ราด จึงได้ช่วยเหลือเด็กเอาไว้ เมื่อมาตรวจสอบพบว่ายายป่วยเป็นจิตเวช ส่วนพ่อแม่เด็กเลิกรากัน แม่ก็ติดคุกคดียาเสพติด

จากกรณีพลเมืองดี แจ้งกับมูลนิธิเป็นหนึ่ง หลังเจอเด็กโดนยายล่ามโซ่ แล้วจูงออกมาจากบ้าน บังคับให้เด็กออกมาเก็บขวดขายหาเงิน ล่าสุดเมื่อวานนี้ 12 พฤศจิกายน 2566 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ ไปยัง อ.น้ำยืน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ และได้เจอกับ นางสาวชลิดา พะละมาตย์ เลขานุการมูลนิธิเป็นหนึ่ง ซึ่งได้เข้ามาช่วยเหลือเด็กในครั้งนี้ โดยนางสาวชลิดา เปิดเผยว่า ตนเองได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากพลเมืองดี ซึ่งพลเมืองดีคนนี้ได้ช่วยเด็กไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะเห็นคุณยายทวดของเด็กล่ามโซ่เด็ก แล้วลากเด็กเดินมาตามถนน และเด็กก็มีอาการกลัวจนปัสสาวะแตก

หลังจากนั้นทางมูลนิธิเป็นหนึ่ง ก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก มาลงพื้นที่ และรับตัวเด็กออกมา ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่พลเมืองดีช่วยเอาไว้ เด็กไปอยู่ที่ร้านซ่อมรถตลอดจนตนมา

ซึ่งจากการสอบถามจากผู้ใหญ่บ้าน ยายที่ดูแล เป็นยายทวดของเด็ก ส่วนพ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน และแม่ก็ติดคุกในคดียาเสพติด ทำให้เด็กต้องอาศัยอยู่กับยายทวดมาตลอด และการเลี้ยงดูของยายดูแล้วก็ดูไม่เหมาะสม นอกจากนั้นยายเองก็ยังมีอาการป่วยจิตเวชร่วมด้วย

ในเบื้องต้นได้คุยกับยาย ยายก็อ้างว่าหลานชอบไปเที่ยวตอนกลางคืน ก็เลยต้องล่ามโซ่หลานเอาไว้ แต่เมื่อพูดคุยกับเด็ก เด็กก็บอกว่ายายชอบตี ใช้ไม้ กับโซ่ตี และเมื่อดูร่องรอยที่แขนของเด็กก็พบว่ามีบาดแผลอยู่ นอกจากนั้นร่างกายของเด็กก็ดูซูบผอม และพูดคุยไม่รู้เรื่อง เหมือนสมองช้ากว่าเด็กปกติ

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจุมทอง อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นยายทวดของ เด็กชายปอนด์ โดยนางจุมทอง เปิดใจกับทีมข่าวของเราว่า ตนเองเลี้ยงดูเหลนชายคนนี้มาตั้งแต่ที่คลอดออกมาจากท้องของหลานสาว  โดยตอนที่หลานสาวท้องเหลนคนนี้เขาติดยาเสพติด พอคลอดออกมาตนก็เลี้ยงมาเป็นเวลา 9 ปีแล้ว ที่ผ่านมาตนเองก็ส่งเสียเลี้ยงดู ให้ไปโรงเรียนทุกวัน

ซึ่งเหลนชายคนนี้ไม่ใช่คนดื้ออะไร แต่จะชอบไปเล่นเกมส์ ส่วนตัวตนเองไม่อยากให้เล่น ก็เลยเอาโซ่ใส่แขน ใส่ขาหลานเอาไว้ เพราะถ้าตอนที่หลานวิ่งหนี ตนเองวิ่งตามไม่ทัน ส่วนโซ่ที่ใช้ล่ามเหลนตนเพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี้ และใช้ล่ามเขาเป็นครั้งแรก โดยโซ่เส้นนี้ตนเองซื้อมาเพื่อใช้ล่ามเหลน เพื่อให้เขาเขียนหนังสืออยู่บ้าน

หลังจากนั้นนางจุมทอง ได้พาทีมข่าวของเราเดินไปดูจุดที่เก็บโซ่เอาไว้ ซึ่งโซ่ถูกเก็บเอาไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้า โดยมีแม่กุญแจดอกใหญ่ 2 ดอกอยู่ด้วย เพื่อเอาไว้ใช้ล็อคขาเด็ก นอกจากนั้นนางจุมทองยังบอกกับทีมข่าวของเราว่า ปกติตนเองอยู่กับเหลนชายคนนี้แค่ 2 คน และตนเองล่ามเหลนเอาไว้กับเสากลางบ้าน เพื่อบังคับให้เขาเขียนหนังสือ แล้วเวลาที่เหลนชายจะไปเข้าห้องน้ำ กินข้าว หรือจะนอน ตนก็จะถอดโซ่ออกให้

ที่ผ่านมาตนเองป่วยหลายโรค และรักษาตัวเองมาหลายปี ส่วนแม่ของเด็กก็ติดยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับตัวเข้าคุกไป ตอนนี้อยู่ในเรือนจำ

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอาดัม ปาธาน พลเมืองดีที่ช่วยเด็กเอาไว้ โดยนายอาดัม เปิดใจกับทีมข่าวของเราว่า ตนเองมาที่ร้านซ่อมรถตรงนี้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง แต่วันนี้ตอนที่ตนเองยืนอยู่ที่หลังรถกระบะ ก็ได้ยินเสียงยายทะเลาะกับเหลนเขามาเรื่อย ๆ พอเลยจุดที่ตนเองยืนอยู่ เขาก็ใช้โซ่ฟาดเด็ก จนเด็กฉี่ราด และร้องไห้ จากนั้นก็เดินตีเด็กไปเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงบ้าน ตนเองก็เลยเดินไปจูงเด็กกลับมาอยู่ที่ร้านซ่อมรถ

จากนั้นตนก็ได้ใช้คีบตัดเหล็กตัดโซ่ออกมาข้อมือเด็ก เด็กก็ยังอยู่ในอาการหวาดกลัวอยู่ จนกระทั่งยายของเด็กก็เดินกลับมา แล้วก็โวยวาย และด่าไปเรื่อย พร้อมทั้งพูดว่าตนเองเสพยาเสพติด และจะเอาตำรวจมาจับตนที่ไปเอาเด็กมา

หลังจากตัดโซ่ออกมามือเด็กเสร็จ ก็มีพลเมืองดีอีกคนจะพาเด็ก และยายไปส่งที่บ้าน แต่ตนก็ได้ถามเด็กว่า “อยากกลับบ้านไหม” เด็กก็บอกว่าไม่อยากไป จากนั้นก็ลงจากรถมา แล้วมาอยู่กับตนที่ร้านซ่อมรถ / ในระหว่างนั้นเด็กก็ได้เล่าให้ฟังว่าถูกยายด่า ยายตี เป็นประจำ

ตนเองมองว่าการกระทำของยายเด็กแบบนี้ดูรุนแรงเกินไป เอาโซ่ที่เหมือนโซ่จูงหมา มาล่ามแขนเด็กเอาไว้ ตนเห็นแล้วก็รู้สึกหดหู่ จึงได้ไปช่วยเด็กเอาไว้

ทีมข่าวยังได้เจอกับ นางมณีรัตน์ คำหนูไทย อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน นางมณีรัตน์ เปิดใจกับทีมข่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองแวะเวียนมาดู นางจุมทอง คุณยายของเด็กอยู่ตลอด เพราะแกกินยาจิตเวช และมีโรคความดัน เบาหวาน ทำให้ต้องแวะเวียนกันมาดู

ส่วนตัวของนางจุมทอง เป็นคนรักเหลน เป็นห่วงเหลน เวลาเด็กชายปอนด์ เหลนชายแกหายไปตอนค่ำ ๆ แกก็จะไปตาม แต่เวลาที่เด็กชายปอนด์พูดไม่ฟัง แกก็จะมีอาการแบบนี้ ส่วนเรื่องเอาโซ่ล่ามเหลน ตนเคยได้ยินแกบอกว่า เหลนดื้อ อยากจะเอาเชือกผูก ตนเองก็ห้ามเอาไว้ว่าอย่าทำ

แต่ที่ผ่านมานางจุมทองกินยาจิตเวช และยาอื่น ๆ เป็นประจำ ตนก็เคยถามว่ากินยามานานหรือยัง แกก็บอกว่ากินมาเป็น 10 ปีแล้ว  และปกติแกก็อาศัยอยู่กับเหลนที่นี่แค่ 2 คน เพราะลูกสาวแยกบ้านกัน แต่แม่ของเด็กติดคุก

เวลาที่ตนมาที่บ้านคุณยายก็ไม่ได้มีอาการคลุ่มคลั่งอะไร พูดคุยเหมือนคนปกติ และเรื่องยาเสพติดคิดว่ายายน่าจะไม่ได้เสพ เพราะกินยาจากโรงพยาบาลอยู่แล้ว และเด็กก็ไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนที่ร่างกายซูบผอมเพราะเด็กเป็นโรคหอบหืด เนื่องจากคลอดก่อนกำหนด ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส