เพจฯ เรื่องเล่าจากโรงหมอ เผยเคสคนไข้หญิงเกิดภาวะ เนื้อมดลูกแยก จากการผ่าคลอดหลายครั้ง เสี่ยงเกิดภาวะ มดลูกแตก อันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และลูก
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 เพจ "เรื่องเล่าจากโรงหมอ" ให้ข้อมูลสุขภาพที่น่าสนใจเรื่องภาวะ เนื้อมดลูกแยก โดยมีการยกเคสคนไข้หญิงรายหนึ่งมีภาวะเนื้อมดลูกแยก จากการที่เคยผ่าตัดคลอดหลายครั้ง จึงเสี่ยงมากต่อการเกิด มดลูกแตก อันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และลูก
โดยคนไข้หญิงรายนี้ ท้องนี้เป็น ท้องที่ 4 และเคยผ่าคลอดมาแล้ว 2 รอบ และไม่ประสงค์ทำหมัน ด้วยเหตุผลส่วนตัว แต่สุดท้าย จบลงด้วยดี คุณหมอได้อธิบายถึง "เหตุ" และ "ผล" สามีของหญิงคนไข้จึงเข้าใจและยินยอม ทุกอย่างจึงจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
คลิกอ่าน โพสต์ต้นทาง เรื่องเล่าจากโรงหมอ
รู้จัก ภาวะ มดลูกแตก เกิดจากเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
จากข้อมูล โรงพยาบาล เปาโล เผยว่า สาเหตุภาวะ มดลูกแตก แบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้
1.เกิดจากความผิดปกติของมดลูกก่อนตั้งครรภ์
- ความผิดปกติแต่กำเนิด ในผู้หญิงบางคนอาจมีอาการผิดปกติของมดลูกซ่อนอยู่โดยที่ไม่รู้มาก่อน เช่น มดลูกมีขนาดเล็กกว่าปกติ หรือมีรูปร่างผิดปกติมาตั้งแต่เกิด พอตั้งครรภ์ขึ้นมาถึงจุดหนึ่ง มดลูกไม่สามารถขยายได้ตามปกติ ทำให้เกิดอาการมดลูกแตกได้ ซึ่งลักษณะเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
- ความผิดปกติที่เกิดจากการผ่าตัด บางคนอาจเกิดแผลที่มดลูกจากอุบัติเหตุจนเกิดการกระแทกและได้รับบาดเจ็บ คนที่เคยมีปัญหาในการผ่าตัดมดลูกมาก่อน หรือแผลผ่าคลอดยังไม่หายดี หากตั้งครรภ์ก่อนที่แผลจะสมานเป็นปกติ ยังไม่แข็งแรงพอ ก็อาจทำให้เกิดการปริแตกได้ และในบางรายอาจเกิดจากเคยขูดมดลูกหรือทำแท้งมาก่อนจนทำให้มีจุดอ่อนที่ผนังมดลูกได้
2.มีการขยายของมดลูกมากจนเกินไป
ทำให้เกิดการปริแตกได้ เช่น คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝด ทารกมีขนาดตัวที่ใหญ่ผิดปกติ หรือบางรายทารกอยู่ในท่านอนขวางก็ทำให้มีโอกาสแตกของมดลูกได้
3.ยาบางชนิดที่ทำให้มดลูกบีบตัวผิดปกติ
หากคุณแม่ได้รับปริมาณยาที่มากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการบีบตัวของมดลูกจนส่งผลให้มดลูกแตกตามมาได้เช่นกัน
มดลูกแตก อันตรายถึงชีวิตได้
ภาวะมดลูกแตกในระหว่างตั้งครรภ์นั้นจะทำให้เกิดการเสียเลือดของคุณแม่เข้าไปในช่องท้องเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดอาการช็อค และคุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีอาการปวดท้องมากผิดปกติแบบเฉียบพลัน ยิ่งหากทารกดิ้นน้อยลง นั่นแปลว่าอาจกำลังขาดเลือด ซึ่งหากรักษาไม่ทันก็อาจทำให้ทารกเสียชีวิต แต่หากรักษาได้ทัน ก็จะสามารถผ่าตัดเพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหล แต่อาจจะต้องผ่าคลอดก่อนกำหนด และหากคุณแม่เสียเลือดมาก ก็อาจทำให้คุณแม่เสียชีวิตได้เช่นกัน ซึ่งภาวะมดลูกแตกนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกระยะของการตั้งครรภ์
บทความสุขภาพของ โรงพยาบาลเปาโล เผยต่อด้วยว่า ภาวะมดลูกแตกแม้จะพบแค่เพียง 1 ใน 2,000 คนของคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่ก็เป็นภาวะวิกฤตที่อันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่และทารกน้อย ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะมีอาการมดลูกแข็งตัวผิดปกติก่อนแตก ซึ่งต้องหมั่นสังเกตและระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจฯ เรื่องเล่าจากโรงหมอ / โรงพยาบาลเปาโล