จากกรณีครูพละโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 2 ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.3 วัย 14 ปี ระหว่างวันที่ 11- 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุมีความพยายามไกล่เกลี่ยประนีประนอม มีคนกลางเจรจากับผู้ปกครองพร้อมจ่ายค่าเสียหายให้กับครอบครัวเด็ก จำนวน 3 แสนบาท เพื่อไม่ให้แจ้งความร้องทุกข์ แต่ทางญาติไม่ยอมจนมีการร้องเรียนผ่านทางผู้นำในชุมชน
กระทั่งวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลกพาพ่อและแม่ พร้อมเด็กหญิงที่ถูกข่มขืน มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.วังทอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวแจ้งว่า ได้ประสานแจ้งกับทางผู้ปกครองเด็กว่าจะจัดสถานที่ให้เด็กได้พักอย่างปลอดภัย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนการคุ้มครองเด็ก
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้สอบถามไปยัง พันตำรวจโทจักรภัทร อิ่มหนำ รอง ผู้กำกับการตำรวจสภ.วังทอง เปิดเผยว่า ศาลได้อนุมัติออกหมายจับนายธัญพิสิษฐ์ บัวสุด ครูชำนาญการพิเศษ 2 ข้อหา คือ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และพรากผู้เยาว์ โดยมีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 10 ปี ทั้งนี้ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ เพื่อติดตามตัวนายธัญพิสิษฐ์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้ สำหรับผลการตรวจรับรองของแพทย์จาก รพ.วังทอง ได้ส่งกลับมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าพบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมเป็นหลักฐานในการออกหมายจับดังกล่าว
นางอัญชรินทร์ กลิ่นศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ปกครองได้นำเด็กนักเรียนคนดังกล่าวมาส่งที่บ้านพักเด็ก โดยทางเจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกได้เดินทางบริการรับ-ส่งมาเข้าบ้านพัก ซึ่งทั้งแม่และเด็กชอบสถานที่ที่จัดเตรียมไว้รองรับรวม ทั้งมีรั้วรอบขอบชิด มีครูเวรนอนพัก 2 คน และ สแตนบายอีก 2 คน ตลอดจนบ้านพักของเจ้าหน้าที่ อยู่ภายในบริเวณสถานที่ทำงาน มีความปลอดภัยแล้ว
ขณะที่เพื่อนบ้านของเด็กม.3 บอกว่าครูพละไม่น่าข่มขืนลูกศิษย์ เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต สงสารเด็ก สภาพจิตใจของเด็กม.3 ย่ำแน่มาก จากเดิมที่มีนิสัยร่าเริงหน้าตาสวยพูดเก่ง กลายเป็นคนเงียบเฉย