สาวเทรนเนอร์ถูกอดีตแฟนขู่ปล่อยคลิปลับ เพื่อเรียกเงิน 1 แสนบาท

สาวเทรนเนอร์ ถูกอดีตแฟนหนุ่มขู่ปล่อยคลิปลับ เรียกเงิน 1 แสนบาท ล่าสุดมีการส่งคลิปในกลุ่มคนใกล้ตัวแล้ว

จากกรณีที่เพจ Facebook Social Hunter Reborn V3 โพสต์ข้อความว่า “สาวจันทบุรีทะเลาะกับแฟนหนุ่มถูกขู่จะปล่อยคลิปลับผ่านโซเชียล ก่อนหน้านี้ทางแฟนหนุ่มได้ปล่อยคลิปลับบางส่วนส่งไปให้เพื่อนและคนใกล้ชิดของแฟนสาวได้ดูบ้างแล้ว และได้มีการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินมา 1 แสนบาท จะทำการปล่อยคลิปลับทั้งหมดผ่านโซเชียล”และตอนนี้สาวรายนี้อยากขอให้มีคนมาช่วยเหลือด้วย”

ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังนางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 32 ปี เพื่อพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวนางสาวบีจึงนำหลักฐานซึ่งเป็นแชทข้อความที่มีลักษณะข่มขู่จากอดีตแฟนหนุ่มมาให้ดู ซึ่งข้อความมีการให้นางสาวบีโอนเงินให้หากไม่โอนจะปล่อยคลิปลับมีที่การถ่ายไว้ตอนมีเพศสัมพันธ์กันลงโซเชียลให้เสียหาย หรือจะส่งในกลุ่มเพื่อนไว้ดูกันเอง ตอนนี้กังวลใจว่าอดีตแฟนหนุ่มจะหยุดพฤติกรรมการข่มขู่หรือจะยอมลบคลิปหรือไม่

นางสาวบี เปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวเกิดจากเริ่มแรกที่มีการคบกันเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน แต่อดีตแฟนหนุ่มเคยมีคดีติดตัวมาก่อนมักจะให้หาเงินให้เพื่อเอาไปต่อสู้คดี หรือใช้จ่าย เคยถึงขั้นให้หาพระที่มีในบ้านไปปล่อยเพื่อหาเงินมาให้หนุ่มรายนี้แรก ๆ มีโอนเงินให้บ้าง แต่ในระยะหลังเริ่มไม่ไหวไม่โอเค เพราะถูกข่มขู่ จึงตีตัวออกห่างไม่โอนเงินหาเงินให้เหมือนเดิม แต่อดีตแฟนที่เป็นหนุ่มนักเพาะกายไม่ยอมจึงขู่ว่าจะปล่อยคลิปลับลงโซเชียล ซึ่งฝ่ายชายเคยเอาคลิปโพสต์ลงในสตอรี่ Facebook และแคปหน้าจอมาให้ตนดูว่ามีการปล่อยลงไปในโซเชียลแล้ว แต่ตนก็ยังไม่ได้มีการโอนเงินให้เคยจะไปแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจมองว่าเป็นเรื่องผัวเมีย จะให้ไกล่เกลี่ยกันซึ่งตนมองว่ายอมไม่ได้แล้วเพราะมีการขู่เอาเงินจำนวนมากขึ้น แต่ล่าสุดฝ่ายชายบล็อก Facebook บล็อกช่องทางการติดต่อไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่กลัวคือไม่ใช่การส่งแค่คลิปให้กลุ่มเพื่อน แต่สักวันกลัวว่าคลิปจะถูกนำไปลงช่องทางอื่นหรือนำไปขายสร้างความเสียหายให้กับตนเอง

ล่าสุดฝ่ายชายไปพักอาศัยอยู่ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีการติดต่อมา เมื่อช่วง 2สัปดาห์ ก่อนหน้านี้โดยบอกว่าลบคลิปไปแล้วท่าทีเหมือนจะขอคืนดี แต่ตนไม่ตกลงวันนี้จึงอยากออกมาเตือนภัยให้เคสนี้เป็นตัวอย่างเชื่อว่าไม่ได้มีตนเพียงรายเดียวที่เสียหายอยากให้ผู้ชายคนนี้หยุดพฤติกรรมและได้เข้าแจ้งความอีกครั้งแล้วที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี