“อภิสิทธิ์” ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์! หลังเคลียร์ใจกับ "เฉลิมชัย" เพียง 10 นาที!
9 ธ.ค. 66 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ กทม. บรรยากาศการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ครั้งที่ 3 ประจำปี 2566 เป็นไปอย่างคึกคัก โดยแกนนำและสมาชิกพรรค ต่างทยอยเดินทางมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปปัตย์
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าและรักษาเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช แกนนำพรรค นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี สมาชิกพรรค เป็นต้น
ทั้งนี้ได้มีตัวแทนสมาชิกพรรคบางส่วน ถือป้ายสนับสนุนให้นายเฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรค โดยระบุข้อความ “เฉลิมชัย สู้ สู้” โดยนายเฉลิมชัย เดินทางเข้ามายังที่ประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและไม่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด จากนั้นเมื่อองค์ประชุมครบ ในเวลา 10.00 น. ได้เริ่มประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม นายชวน ได้เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ ชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในที่ประชุม เมื่อเวลา 10.20 น.ที่ผ่านมา
นายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นกล่าวกลางที่ประชุมว่า ไม่เคยคิดอยากเป็น แต่การตัดสินใจครั้งนี้เพราะตนเองเป็นหนี้บุญคุณพรรค และมีคนคาดหวัง บางคนโทรมา บางคนต่อว่าตนเองเห็นแก่ตัวที่ไม่มากอบกู้พรรค
พร้อมถามที่ประชุมว่าเราตระหนักแค่ไหนว่าพรรคที่อยู่ในภาวะที่ยิ่งกว่าวิกฤติ เราคิดกันจริงจังหรือยังว่าเรามาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร
สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์แตกต่างจากพรรคอื่นคือเป็นพรรคที่ไม่เคยกลัวที่จะเป็นฝ่ายค้านหลายพรรคเป็นพรรคที่เป็นได้แค่รัฐบาลหรือเป็นพรรคที่จะรอร่วมรัฐบาล วันนี้พรรคเดินต่อไม่ได้ถ้าไม่มีเอกภาพที่แท้จริง
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวกลางที่ประชุมขอคุยกับนายเฉลิมชัย ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรค
ด้านนายเฉลิมชัย ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยปฏิเสธพูดคุยจริง แค่วันนี้พร้อมพูดคุย ปัญหาอะไรอัดอั้นตันใจก็พร้อมบอกแค่ขอคุยกัน 2 คนเท่านั้น ยืนยันประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ใครและไม่มีวันยอม
ต่อมาทัังคู่ได้ปิดห้องคุยใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาที และเปิดการประชุมต่อ
นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าหลังประชุมเข้าใจตรงกันทุกอย่าง นายเฉลิมชัยบอกแนวทางว่ามีแนวทางเดินหน้าอย่างไร และตนเองขอถอนตัว และลาออกจากสมาชิกพรคค ยืนยันไม่ไปพรรคอื่นกรีดเลือดมาเป็นสีฟ้า ขอให้ทำงานเต็มที่ไม่ต้องหวาดระแวงผมหรือใคร หวังว่าผู้บริหารชุดใหม่ทำวานได้สำเร็จตามที่รักษาการหัวหน้าได้แจ้ง
ต่อมาเดชดิฐ ขาวทอง เสนอชื่อนายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรค และทำการประชุมต่อ
ทั้งนี้ ภายหลังที่นายอภิสิทธิ์ขอถอนตัวจากการลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคและขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางกลับทันที โดยบอกว่า ได้พูดไปหมดแล้ว จากนี้ไม่มีอะไรค้างคาใจ ส่วนจากนี้จะวางบทบาททางการเมืองอย่างไรยอมรับว่ายังไม่ได้คิด เมื่อถามว่าคาดการณ์ล่วงหน้าว่าหากพูดคุยกับนายเฉลิมชัยแล้วจะลาออกจากพรรค ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ในระหว่างการคุยกันนายเฉลิมชัยบอกว่าจะไปร่วมรัฐบาลหรือไม่จึงทำให้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกนั้น นายอภิสิทธิ์ บอกว่า เดี๋ยวท่านก็พูดเอง เมื่อถามย้ำว่า การตัดสินใจลาออกได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ยังคงปฏิเสธการตอบ พร้อมกับเดินขึ้นรถ โดยในระหว่างนั้นมีสมาชิกพรรควิ่งจับมือ ซึ่งนายอภิสิทธิ์บอกว่าเดี๋ยวเจอกัน ก่อนที่จะเดินทางกลับ
