คุม 122 นักเที่ยวฉี่ม่วงส่งบำบัดฟื้นฟู หลังบุกจับผับดังย่านรามอินทรา

10 ธ.ค. 66

ญาติปรี่ตบหัวหลานไม่สำนึก หลัง สน.โชคชัย คุมตัว 122 นักเที่ยวฉี่ม่วงส่งสถานบำบัดฟื้นฟู หลัง อนุทิน นำฝ่ายปกครองบุกจับผับดัง ย่านรามอินทรา เมื่อคืนที่ผ่านมา

วันนี้ (10 ธ.ค.66) พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย คุมตัวนักเที่ยวที่ตรวจพบสารเสพติดในร่างกายจำนวน 122 คน เป็นชาย 76 คนหญิง 46 คน ที่สมัครใจยอมเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ไปส่งสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด คลินิกก้าวใหม่ ลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 46 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง โดยผู้เข้ารับการฟื้นฟูทั้งหมดจะต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัดยาเสพติดในทันทีและให้ครอบครัวไปติดต่อที่ศูนย์เพื่อรับทราบขั้นตอนและกระบวนการ

หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นำกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง สนธิกำลังกับตำรวจนครบาล 4 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. บุกเข้าตรวจค้นสถานบันเทิง sonic ย่านรามอินทรา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ หลังได้รับข้อมูลว่า เปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ

ทั้งนี้ในการนำตัวผู้เข้ารับการบำบัดไปส่งศูนย์ได้มีการนำตัวทยอยขึ้นรถบรรทุกขนาดเล็กรอบละ 30 คน พบว่าในระหว่างการนำตัวขึ้นรถมีญาติและเพื่อนของผู้เข้ารับการบำบัดมารอให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง โดยระหว่างนำตัวผู้บำบัดขึ้นรถได้มีญาติของนักเที่ยวรายหนึ่งเดินเข้ามาตบศีรษะหลานของตนเองอย่างแรงเพื่อเป็นการสั่งสอน เพราะรู้สึกไม่พอใจที่หลานแอบหนีไปเที่ยวจนถูกตำรวจจับแต่ยังคงมีสีหน้ายิ้มระรื่นจึงอดใจไว้ไม่ไหว

สำหรับกลุ่มของผู้ต้องหา ที่เป็นเจ้าของร้านผู้ดูแลและผู้เกี่ยวข้องหรือผู้ที่พบยาเสพติดภายในตัว ได้ถูกแจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้าม รวมถึงข้อหาอื่นๆ สำหรับผู้ต้องหาในกลุ่มนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องสอบปากคำผู้ต้องหาทุกคนอย่างละเอียด จึงทำให้ไม่สามารถนำตัวส่งฝากขังต่อศาลได้ทันในเที่ยงวันนี้ จึงต้องควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจจนถึงวันอังคารช่วงเช้า จึงจะสามารถนำตัวไปส่งฝากทางตามขั้นตอนได้

นอกจากนี้ผู้กำกับการสน.โชคชัยอยู่ระหว่างการทำเรื่องและเอกสารเกี่ยวกับการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติด ภายในบริเวณสถานประกอบการ เพื่อนำเรื่องส่งให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลดำเนินการสั่งปิดสถานประกอบการดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี และห้ามไม่ให้ประกอบกิจการสถานบริการในลักษณะดังกล่าวในจุดเดิมได้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส