อ.ปรเมศวร์ ฟันธง! ยังไง สมรักษ์ คำสิงห์ ก็ติดคุก แต่จะโดนข้อหาอะไรบ้าง ต้องดูที่พยานหลักฐาน แนะรับสารภาพ เรื่องหนักจะได้กลายเป็นเบา
จากกรณีที่นาย สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยชื่อดัง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ขอนแก่น ภายหลังโดนหมายเรียกในคดีพาตัวเด็กอายุ 17 ปี ไปโรงแรม ซึ่งหลังพบพนักงานสอบสวนแล้ว นายสมรักษ์ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา
ล่าสุดวันนี้ 14 ธ.ค. 66 นาย ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ว่า ตอนแรกตนคิดว่านายสมรักษ์น่าจะโดนมาตรา 319 คือพรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดา โดยผู้เยาว์สมยอม เพื่อไปทำอนาจาร แต่จากที่ตนดูตามข่าวในจังหวะที่นายสมรักษ์ ชวนเด็กสาว 17 ขึ้นรถ มีจังหวะที่เด็กถอย แล้วนายสมรักษ์จับมือเด็กเอาไว้ แล้วพาตัวขึ้นรถขับออกไปก็อาจจะมองได้ว่ามีการใช้กำลังบังคับหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นนายสมรักษ์ อาจจะโดนมาตรา 283 เรื่องการทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพด้วย
นายปรเมศวร์ กล่าวต่อว่า แล้วที่ตนตั้งข้อสงสัยเพิ่มเติมคือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจร่างกายนายสมรักษ์ไปด้วย อาจจะมองได้ว่ามีการสำเร็จความใคร่แล้ว อีกอย่างตอนที่นายสมรักษ์เคยออกมาเปิดเผยว่า พอรู้ว่าเด็กอายุ 17 ปีก็เลยเลิก ก็มีคนตั้งคำถามว่า ที่เลิกเพราะรู้ หรือเลิกเพราะเสร็จกิจแล้ว หากนายสมรักษ์มีการกระทำแบบนั้นจริง ก็จะผิดในมาตรา 276 กระทำชำเราด้วย
นอกจากนั้นรถจักรยานยนต์ที่นายสมรักษ์ได้พาเด็กอายุ 17 ปีไปด้วย กลายเป็นว่าคนขับรถจักรยานยนต์ก็เป็นเพื่อนของนายสมรักษ์ด้วย แบบนี้ก็จะโดนข้อหา สนับสนุนให้มีการกระทำ วันนี้ตนมองว่าข้อเท็จจริงค่อนข้างชัด ไม่ว่านายสมรักษ์จะปฏิเสธอย่างไรก็ยากที่จะไม่ติดคุก
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า แล้วที่ผ่านมาหลังเกิดเรื่อง แล้วเรื่องมันดังขึ้นมา นายสมรักษ์ ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรชื่อดังเรื่องที่น้อง 17 ปี บอกในผับว่าอายุ 17 ปี แต่นายสมรักษ์ไม่เชื่อ ซึ่งข้อนี้ก็เป็นเรื่องความประมาท นอกจากนั้นเมื่อมาดูพฤติกรรมของนายสมรักษ์ ก็เข้าเงื่อนไขของข้อกฎหมาย จะปฏิเสธ หรือต่อสู้ก็ต้องดู แล้วหลักฐานทั้งหมดที่อยู่หน้าข่าว การให้สัมภาษณ์ต่างๆ ก็ต้องโดนทนายความของฝั่งตรงข้ามเก็บข้อมูลเอาไว้หมดแล้ว ถ้าแบบนี้จะปฏิเสธอย่างไร นอกจากนั้นเรื่องที่นายสมรักษ์พูดว่าเพิ่งเลิกกับภรรยาไปได้ 2 เดือน ตนก็ไม่แน่ใจว่าเขาบอกทำไม เพราะยิ่งพูดแบบนั้น ยิ่งมัดตัวเข้าไปใหญ่ ตนอยากจะแนะนำให้นายสมรักษ์หยุดพูดก่อน หากว่านายสมรักษ์ทำจริง ตนก็แนะนำให้ยอมรับสารภาพไป คิดว่านายไม่ได้โม้ กับเด็กที่บริสุทธิ์ ศาลจะเชื่อใคร
ส่วนความเห็นของตน มองว่ายังไงนายสมรักษ์ก็ต้องโดนคดี แต่จะโดนมากหรือน้อยก็ต้องดูอีกครั้ง แล้วที่ผ่านมานายสมรักษ์เองก็เคยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมาแล้ว ก็อาจจะช่วยผ่อนปรนให้รับโทษน้อยลงได้ แต่ตนมั่นใจว่ายังไงก็ต้องโดนโทษแน่นอน เหมือนกับคดีของรองหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ที่โดนโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องของนายสมรักษ์ ศาลน่าจะลงโทษไม่น้อยกว่า 3 ปีอย่างแน่นอน นอกจากนี้ตนก็อยากจะฝากถึงเด็กที่อายุยังไม่ถึง อย่าไปกับใครที่ไม่ไว้ใจ แล้วสถานบริการอาจจะต้องเข้มงวดในการตรวจบัตรมากขึ้น