ชาวบ้านบ้านกกกอก ห่วง “พ่อแบม” พยานสำคัญ คดีน้องชมพู่

ชาวบ้านบ้านกกกอก ห่วง “พ่อแบม” พยานสำคัญ คดีน้องชมพู่ ออกทีวีหลายช่องเกรงไม่ปลอดภัย หลังศาลชั้นต้นตัดสินคุกลุงพล 20 ปี 

วันที่ 23 ธ.ค. 66 ภายหลังศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษาตัดสิน คดีน้องชมพู่ บรรยากาศที่หน้าบ้านของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล  และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภายในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร จาก 2 ปี ที่ผ่านมา เป็นบ้านที่เคยมีเหล่ากองเชียร์และยูทูบเบอร์วนเวียนตลอด 24 ชั่วโมง สภาพวันนี้ไม่คึกคักเหมือนในอดีต หลังจากนายไชย์พลได้ย้ายที่อยู่ ไปอาศัยที่บ้านเกิด อ.วานรวิวาส จ.สกลนคร ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 65 ประมาณ 1 ปีกว่า 

และไม่แตกต่างจากลานปู่ปาริจิตนาคราช ซึ่งนายไชย์พลเคยสร้าง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว กราบขอพรขอโชคลาภ แทบจะมองไม่ออกว่า นี่คือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะเป็นป่ารกมีหญ้า และวัชพืชขึ้นปกคลุมเต็มพื้นที่ ส่วนที่บริเวณสวนยางพาราที่เคยสร้างเป็นที่พัก ก็ถูกทิ้งร้างเป็นบางส่วน เพราะมียูทูบเบอร์เช่าไว้พัก เพื่อติดตามชีวิตลุงพลเพียงไม่กี่หลัง 

ด้านชาวบ้านบางส่วนยังคงติดตามรายการต่างๆของสถานีช่องโทรทัศน์ที่ได้เชิญคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปออกรายการ  โดยวันนี้ทางพ่อแบม หรือ นายวัชรินทร์ กงแก่นท้าว พยานปากสำคัญในคดีน้องชมพู่ ซึ่งทางแม่แหลม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกโล่งใจหลังจากที่มีการตัดสินคดีน้องชมพู่ เพราะเป็นคดีที่ยาวนานกว่า 3 ปี ตอนนี้คนที่เป็นห่วงที่สุดก็คือพ่อแบม เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะออกทีวีหลายช่องเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย