พยาบาลสาวพาแม่ร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังแม่เข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก แต่หมอเกิดรักษาผิดพลาด ทำให้ติดเชื้อรุนแรง ต้องควักลูกตาทิ้ง
นาง รุ่งทิพย์ อายุ 51 พยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.ราชบุรี กล่าวว่า นางมัก แม่ของตนนั้น มีอาการตามองเห็นไม่ชัด จึงได้พาไปตรวจที่คลินิกแห่งนึ่งใน จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้ตรวจที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งใน จ.ราชบุรี ว่าเป็นต้อกระจกที่ตาซ้าย จึงได้เสนอแพ็คเกจการผ่าตัดต่างๆ ซึ่งตนและแม่มีความไม่สะดวกบางอย่างในแพ็คเกจเหล่านี้ เช่นไม่สะดวกไปช่วงเวลาในการผ่าตัดนั้นๆ ตนจึงเลือกที่จะจ่ายเงิน 25,000 บาท ซึ่งสามารถวัดเลนส์ได้วันนั้นเลยและสามารถไปผ่าตัดได้ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของ จ.ราชบุรี ได้เลยในวันที่ 15 พฤษภาคม
แต่ภายหลังจากการผ่าตัดนั้น สังเกตตาของแม่ข้างที่ผ่าตัดมานั้นมีรอยแดงคล้ายเลือดออกในตา แต่หมอคนที่รักษาได้บอกกับตนว่าเพิ่งผ่าตัดมาดวงตาอาจจะยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะมีสีเเดงในตาอยู่บ้าง แต่ปรากฏว่าหลังจากมีการนัดดูตาขึ้นอีก 7 วันหลังจากนั้น ก็ได้มีการแจ้งจากแพทย์ที่รักษาคนดังกล่าวว่าตาของแม่นั้นมีการติดเชื้อ ต้องมีการไปรักษาตัวด่วนที่โรงพยาบาล จึงได้มีการนัดจากแพทย์คนดังกล่าวว่าให้ไปรับยาฆ่าเชื้อในวันที่ 23 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลที่ตนทำงานอยู่ เพราะตนและแพทย์คนดังกล่าวนั้นทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกัน แต่พอไปถึงกลับไม่ได้ให้ยาดังกล่าว มีเเต่การเขียนใบบันทึกข้อความและบอกให้ตนนั้นรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาล พอตนและแม่ได้ไปถึงโรงพยาบาลดังกล่าวก็ได้ผ่าตัดในวันนั้นเลย
โดยภายหลังการผ่าตัดตาอีกรอบในวันรุ่งขึ้น ตาสองข้างนั้นแทบจะไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะการอักเสบนั้นบวมไม่สามารถไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งแพทย์ได้บอกว่าการอักเสบในครั้งนี้นั้นอาจจะต้องมีการควักลูกตาออก ซึ่งแพทย์ผู้รักษานั้นได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว
แล้วก็ควักลูกตาออกเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้ตาข้างซ้ายของแม่ไม่มีลูกตาเป็นลูกตาปลอม หลังเกิดเหตุ ตนจึงมีข้อสงสัยเพราะว่าการติดเชื้อมันเป็นการติดเชื้อภายใน 7 วันหลังการผ่าตัด จึงไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ดำรงธรรมส่งเรื่องไปให้สาธารณสุขจังหวัด พบข้อบกพร่องหลายอย่าง แต่สรุปว่าห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน โดยแพทย์ไม่เคยโทรศัพท์มาสอบถามอาการของคนไข้เลย อ้างว่าไม่สามารถหาเบอร์ของโทรศัพท์ของตนได้ ทั้งที่ตนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นบุคลากรทางการแพทย์เช่นเดียวกัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ส.ค.66 ตนได้พบกับแพทย์ผู้รับทำการผ่าตัด โดยมีรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล และหัวหน้าแผนกศูนย์คุณภาพ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะแสดงความรับผิดชอบ ดำเนินการให้แม่ได้โดยใส่ตาปลอม ขอระยะเวลา 6 เดือน แต่พอครบ 6 เดือน กลับไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ เหมือนเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ก่อนจะได้คำตอบว่าให้รอประกันสรุป ทำให้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตนคิดว่าฝ่ายแพทย์คงไม่ดำเนินการตามข้อตกลงแน่ๆ สุดท้ายเรื่องเงียบ จึงมาขอร้องความเป็นธรรมกับทางเพจสายไหมต้องรอด แต่กรณีนี้ตนยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด
โดยตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังแพทยสภาถึงมาตรฐานการรักษาคุณธรรมจริยธรรมของแพทย์ท่านนี้ ขอให้ท่านตัดสินและชี้ขาดตามกระบวนการยุติธรรมให้มีความเป็นธรรมแก่ครอบครัวด้วย
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า เอกสารของผู้เสียหายได้มีการร้องเรียนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ขอฝากถึงแพทย์สภา สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ให้ลงมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทั้งนี้อาม่าผู้เป็นฝ่ายสูญเสียดวงตาควรได้รับการเยียวยาที่สมเหตุสมผล เพราะตนเข้าใจความรู้สึกดีว่าลูกสาวเป็นห่วงคุณแม่นำไปผ่าต้อกระจกสุดท้ายต้องควักดวงตาของคุณแม่ไป และชีวิตของคุณแม่ไม่เหมือนเดิม ขนาดแค่หั่นฝรั่งยังเอามีดเฉือนเนื้อตัวเองด้วยความที่ไม่เคยชิน เมื่อเหลือดวงตาเพียงข้างเดียว ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยว่าเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่.