ไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิต! 'ชาคริต' ปล่อยเบลอแชทหลุดคุย 'ตาล ลีโอเกิร์ล' อโหสิให้ถ้าทำชีวิตใครดีขึ้น

ต่อให้กระแสดราม่าจะร้อนแรงแค่ไหนแต่พระเอก "ชาคริต แย้มนาม" ขอถือคติ นิ่ง สงบ สยบความดราม่า ปล่อยให้ประเด็นเผือกร้อนๆ ที่ลากยาวกันกว่า 1 สัปดาห์ซาไปเอง สำหรับจุดเริ่มต้นของซีนดราม่าเริ่มมาจากการที่สาวอักษรย่อ "T" ได้โฟนอินเข้าไปเล่าประสบการณ์ชีวิตนกๆ หลังโดนพระเอกดังอักษรย่อ "K" เทไว้กลางทาง ซึ่งคีย์เวิร์ดที่สาวเจ้าบอกใบ้ เข็มก็กระดิกชี้ไปยังหนุ่ม "ชาคริต แย้มนาม" ทันทีแบบไม่มีตัวเลือกอื่น หลังจากนั้นไม่นาน "ตาล สรัญญา" นางแบบปฏิทินเซ็กซี่น้ำเมายี่ห้อดัง  ก็ได้ออกมาชี้แจงยอมรับว่าตนคือสาวที่โฟนอินเข้าไปในรายการจริง และพระเอกที่พาดพิงถึงก็คือหนุ่มชาคริตอย่างที่เก็งกันไว้ พร้อมปัดเกาะกระแสฝ่ายชายดังและไม่มีเจตนาทำลายชื่อเสียง ก่อนยกมือไหว้ขอโทษหากตนทำให้เรื่องดูวุ่นวาย ล่าสุด "ชาคริต" ก็ได้เวลาออกมาเคลียร์หมดไส้ในประเด็นดังกล่าวว่า... "ก็ไม่มีอะไรจะคอมเม้นท์ ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรในชีวิต เขามากินข้าวที่ร้าน ก็ถ่ายรูปกันปกติ ไม่มีอะไร จากนั้นที่เห็นก็ไม่มีอะไร เป็นการคุยเล่นกัน เขาคุยเล่นมาเราก็คุย ก็แค่นั้นเอง เขาส่งรูปว่าไปทำสังฆทานมาให้ดู เราก็อนุโมทนาบุญครับ ก็ประมาณนั้น" งงมั้ยกับสตอรี่ที่เขาเล่ามาเป็นฉากๆ ว่าเริ่มต้นยังไงจนถึงขั้นเป็นแฟนเลย ? "ไม่รู้จะคิดอะไรดีกว่า คือก็งงตั้งแต่แรก ถึงบอกว่าตั้งแรกที่น้องเขาบอกว่า ก็ไม่ได้ติดต่อไม่ได้อะไร สุดท้ายก็ต้องขอบคุณที่น้องเขาขอโทษเรา ก็โอเค ซึ่งถ้าถามว่าน้องเขาเจตนาอะไร เราก็ไม่ทราบเหมือนกัน ก็ปล่อยๆ ไปเถอะครับ มันผ่านไปแล้ว" ถามว่าไปให้ความหวังน้องเขามั้ย ก็คงไม่นะเพราะไม่งั้นผมถ่ายรูปกับทุกคน คือถ้าฉันถ่ายกับเธอ เธอต้องเป็นเมียฉันมั้ย (หัวเราะ) เราอยู่ตรงนี้มันก็ดาบสองคม บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง ไม่คิดว่าเราจะเจออย่างนี้กับตัว เราก็อยู่ของเราแบบนี้ ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ก็โอเคถ้าเกิดมันทำให้ชีวิตใครดีขึ้นรึเปล่า เราไม่เสียหายอะไรก็โอเค ก็อย่างที่บอกน้องเขาก็ขอบคุณเรามา ก็ดีๆ ส่วนคนมองว่าน้องเขามาเกาะเราดังนั้น ชาคริต ลั่นว่า "ไม่เป็นไร ก็อโหสิกรรมไป" นอกจากนี้พระเอกหนุ่มได้ชี้แจงต่อไปว่า ฝ่ายสาวบอกว่าต้องการปรึกษาเรื่องธุรกิจ จึงได้มีการแลกไลน์กันเกิดขึ้น ยอมรับมีคุยทั้งเรื่องธุรกิจจริงและเรื่องส่วนตัว เช่นน้องเขาบอกเครียด เราก็ได้มีการพูดจาให้กำลังใจกันไป ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องเราก็ถอยห่างออกไป ส่วนตัวเราเองเราก็คิดว่าเราไปให้ความหวังเขารึเปล่า คือเราก็เห็นเขาเป็นเหมือนเพื่อนเหมือนน้องมากกว่า อย่างที่บอกตอนนี้เราไม่มีเวลาหรอก ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ที่ดูสนิทสนมกัน ดูได้จากแชทไลน์ที่หลุดออกมา ชาคริตกล่าวว่า ไม่มีอะไร เป็นเรื่องปกติ เวลาคุยกับเพื่อนก็คุยเยอะแยะแบบนี้แหละ สำหรับเรื่องงานไร้ผลกระทบอะไร มีแค่แบบเอาอีกแล้วหรอ (ทำหน้าเซ็ง) เดี๋ยวจะมีผู้หวังดีโทรเข้าไปที่บ้านอีกแล้ว จะมีอะไรกระทบแม่อีกมั้ย เป็นเรื่องนี้มากกว่า ซึ่งต่อไปนี้ใครจะมาอ้างเรื่องธุรกิจแล้วจะมาแลกไลน์ ก็คงต้องดูมากขึ้น ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ครับ"