ไขข้อสงสัย? 10 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนซื้อขายทองคำ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ
ทองคำมักมีราคาขึ้นตอนช่วงต้นเดือนมกราคมและเดือนกรกฏาคม และราคาจะเริ่มลงมาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงมีนาคม ดังนั้นหากนักลงทุนมือใหม่ต้องการเกร็งกำไรกับราคาทอง ช่วงที่ดีที่สุดในการซื้อขายทองคำนั่นก็คือช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม
สมาคมค้าทองคำไม่ได้อัปเดตราคาทองคำตลอดเวลา จะเป็นการอัปเดตช่วงเช้าและช่วงบ่ายเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเกร็งกำไรกับราคาทองคำถือว่ามีความเสี่ยงมาก หากพลาดไปแค่ชั่วโมงเดียวก็มีโอกาสขาดทุนได้หลายหมื่นบาทได้
ทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการลงทุนในช่วงที่ตลาดผันผวน ที่ให้การตอบรับที่ดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะใกล้เคียงกับหุ้นในระยะยาว ยกตัวอย่างหากถือทองคำเป็นเวลา 10-20 ปี จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนต่อปี 5-10%
ควรซื้อทองแท่งมากกว่าทองคำที่แปรรูปแล้วเช่นทองรูปพรรณ เพราะการซื้อทองแท่งจะเสียค่ากำเหน็จต่ำกว่า นอกจากนี้ทองแท่งยังเก็บรักษาง่ายกว่าอีกด้วย
ยิ่งซื้อทองที่มีมูลค่ามาก ค่ากำเหน็จจะยิ่งต่ำลง แต่ข้อเสียก็คือ หาคนซื้อต่อได้ยากเพราะไม่สามารถแบ่งขายได้ ที่สำคัญมีโอกาสเจอทองปลอมสูง เนื่องจากทองปลอมนิยมผลิตออกมาเป็นรูปแบบของทองคำแท่งเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้มีมูลค่ามากขึ้นนั่นเอง
การนำทองคำของไทยไปขายที่ต่างประเทศนั้นจะโดนกดราคา เพราะทองคำของประเทศเรานั้นมีมาตราฐานที่แตกต่างจากต่างประเทศ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีการนำออกไปขายที่ต่างประเทศ ยังมีการนำออกไปขายต่างประเทศอยู่บ้าง โดยส่วนมากแล้วจะแนะนำให้ไปขายกันที่ China Town ของประเทศนั้นๆ เพราะเป็นที่ที่ขายง่ายที่สุด หรือถ้าอยากนำไปขายต่างประเทศต้องเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรองรับจาก LBMA หรือสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน
อย่างที่ได้กล่าวไปที่ข้อที่แล้วว่า เมื่อนำทองคำของไทยไปขายต่างประเทศจะโดนกดราคา นั่นก็เพราะว่า ทองของไทยมีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 96.5% แต่ทองคำของต่างประเทศความบริสุทธิ์อยู่ที่ 99.99% แต่หากใครที่ต้องการนำทองคำไปขายต่างประเทศต้องเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก LBMA หรือสมาคมค้าทองคำแห่งลอนดอน
เราสามารถลงทุนทองคำดิจิทัลได้แล้ว จะคล้ายๆ กับการซื้อ-ขายสัญญาส่งมอบทองคำ จะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าค่ากำเหน็จเยอะ และสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง และที่สำคัญสามารถมั่นใจได้เลยว่าทองคำที่เราลงทุนนั้นเป็นทองคำแท้แน่นอน
ข้อนี้สำคัญมาก แนะนำเลยว่าเมื่อเราซื้อทองจากร้านไหนก็ควรขายที่ร้านนั้น เพื่อไม่ให้เจอปัญหาการกดราคา
ประเทศไทยใช้มาตรวัดหน่วยเป็น “บาท” 1 บาท เท่ากับน้ำหนักทองคำ 15.244 กรัม ส่วนทองคำซื้อขายกันในตลาดโลกใช้หน่วยเป็น “ออนซ์” 1 ออนซ์ เท่ากับน้ำหนักทองคำ 31.103 กรัม การแปลงหน่วยวัดที่แตกต่างกัน ใช้วิธีคำนวณตามสัดส่วนและอิงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
Advertisement