ชาวนราฯยิ้มทั้งน้ำตาถูกน้ำท่วมไร้ที่นอนที่ทำกิน

ชาวนราธิวาสยิ้มทั้งน้ำตาถูกน้ำท่วมไร้ที่นอนที่ทำกิน ด้าน บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นำทีมรุดลงพื้นที่ช่วยเหลือ

วันนี้ (28 ธันวาคม 66) บิณฑ์-เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ตัวแทนของมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนราธิวา สเพื่อเลือกซื้อสิ่งของจำเป็น เช่นผ้าอนามัย เทียนไข ชุดที่นอน หมอน ผ้าห่ม เพื่อนำไปมอบแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ของอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี แต่ในระหว่างที่กำลังเลือกซื้อเทียนไข และผ้าอามัยอยู่นั้น ปรากฏว่ามีตัวแทนของชุมชนยะรัง 1 นำเรื่องมาแจ้งกับทางคุณบิณฑ์ว่า ที่ชุมชนมีบ้านพักอยู่ประมาณ 10 หลังคาเรือน ที่กำลังเดือดร้อนจากการไร้ที่นอนหมอนมุ้ง เนื่องจากถูกน้ำท่วมบ้านทั้งหลัง ที่หลับที่นอนลอยไปกับกระแสน้ำ ต้องการความช่วยเหลือด่วนมาก เมื่อขอมาทางคุณบิณฑ์ ก็รีบดำเนินการให้ทันที เลือกซื้อชุดที่นอนผ้าห่มผ้าเช็ดตัวหมอนที่นอนไปมอบให้ด้วยตนเอง

โดยพากันเดินทางไปที่ชุมชนยะรัง 1 ริมแม่น้ำบางนารา อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งทางคณะต้องลุยน้ำประมาณเอวเข้าไปมอบและเยี่ยมให้กำลังใจกับชาวบ้าน นอกจากจะมอบชุดที่นอนแล้วยังมีการมอบถุงยังชีพจากมูลนิธิร่วมกตัญญูและทางคุณบิณฑ์ ยังมอบเงินสดให้ครอบครัวละ 1,000 บาท เพื่อเป็นทุนสำหรับซื้อสิ่งของจำเป็นเข้าบ้าน

ด้านนางสาวฮาสือม๊ะ ซอเอาะ แม่ค้าขนม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ขอความช่วยเหลือเรื่องชุดที่นอน เธอเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนเองพักอาศัยในบ้านรวมคนพิการทั้งหมด 5 ชีวิต ปีนี้น้ำมาเร็วและขึ้นไว จนไม่สามารถเก็บข้าวของออกจากบ้านทัน อีกทั้งมีทั้งคนป่วย และไม่มีผู้ชายในบ้าน ทำได้แค่รีบเคลื่อนย้ายคนป่วยออก จนข้าวของเครื่องใช้ในบ้านจมน้ำเสียหายทั้งหมด ตอนนี้ตนเองนอกจากที่นอน แล้วยังต้องการทุนก้อนหนึ่ง เพื่อซื้ออุปกรณ์เตาแก๊ส และสิ่งของมาไว้ทำขนมขาย หากไม่มีเงินทุนก็ไม่รู้จะหาอุปกรณ์เหล่านี้มาจากไหน ที่ผ่านมายึดอาชีพทำขนมขายดูแลทุกคนในครอบครัว คุณบิณฑ์ จึงไม่รอช้ามอบเงินสดให้ 5,000 บาท เพื่อไปซื้ออุปกรณ์ทำขนม สร้างความดีใจและรอยยิ้มทั้งน้ำตาให้กับเธอ

ขณะที่ทีมข่าวเราขออนุญาตเข้าไปถ่ายในบ้านพักหลังหนึ่ง เพื่อดูสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังน้ำลด พบว่าข้าวของทุกอย่างจมน้ำเสียหายหมดทั้งหลัง

ด้านนายสอบรี รองประธานชุมชน บอกว่าชุมชนยะรัง 1 แห่งนี้ ถูกน้ำท่วมสูงมากกว่าทุกปี จนชาวบ้านเตรียมตัวไม่ทัน ซึ่งมีชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือนรวม 1,650 กว่าคนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในครั้งนี้.