สลด! หนุ่มซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รถเสียหลักล้ม พ่วง 22 ล้อ ทับหัวดับ

สองหนุ่มขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านหลังดื่มเสร็จ รถเสียหลักล้ม คนซ้อนท้ายดวงกุด ถูกรถพ่วง 22 ล้อ ทับหัวดับคาที่

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 6 ม.ค. 67 พ.ต.ท.จิระวัฒน์ อ่องสาพง สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตบริเวณ 3 แยกพระสมุทรเจดีย์ มุ่งหน้า อ.พระประแดง หมู่ที่ 3 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณเลนขวาสุดติดเกาะกลางถนนพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นโซนิคสีแดง-ดำ ทะเบียนชลบุรีล้มคว่ำอยู่ใกล้กันพบขวดเบียร์ยี่ห้อหนึ่งเปิดอยู่ ภายในมีเบียร์อยู่ค่อนขวด ห่างกันเล็กน้อยพบร่างผู้เสียชีวิต นายสมใจ พุทธรักษา อายุ 58 ปี ชาว ต.ดงมะรุม อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี นอนหงายอยู่บนพื้นถนนในลักษณะศีรษะถูกทับจนบี้แบน เลือดไหลนองพื้น สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียวอ่อน ของบริษัทผลิตน้ำมันพืชแห่งหนึ่ง สวมกางเกงขาสั้นสีดำ โดยมีนายสุชาทรัพย์ ศรีงาม อายุ 23 ปี ชาวต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นคนขับรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ นั่งกราบและกอดร่างผู้เสียชีวิตพร้อมพูดตัดพ้อว่าผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ น้าช่วยลุกขึ้นมาได้ไหม ผมไม่อยากติดคุก ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถลอกบริเวณแขนซ้าย และหัวเข่า ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถคู่กรณีเป็นรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุสีขาว ทะเบียน สมุทรปราการ โดยมีนายสมพร แสนรัมย์ อายุ 46 ปี ชาว ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โชว์เฟอร์รถพ่วงยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามนายสมพร โชว์เฟอร์รถพ่วง ให้การว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.30 น. ตนได้ขับรถบรรทุกพ่วงออกมาจากอู่จอดรถ ภายในซอยธนากรเพื่อมุ่งหน้าไปรับตู้สินค้าที่ อ.บางพลี เมื่อมาขับถึงที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในเลนที่ 2 นับจากเกาะกลางถนน ตนไม่ทราบว่ารถจักรยานยนต์วิ่งมาจากทิศทางไหน มารู้สึกอีกทีตอนที่ท้ายพ่วงกระโดด จึงมองผ่านกระจกข้างด้านขวารถพบว่ามีรถจักรยานยนต์และคนขับล้มกลิ้งอยู่ จึงพยายามขับรถมาจอดข้างทางพร้อมวิ่งไปช่วยเหลือ เห็นมีคนเจ็บนอนเลือดไหลอยู่ 1 คน และคนเจ็บอีก 1 คน พยายามดึงคนเจ็บที่นอนอยู่เข้าข้างทาง ก่อนที่จะมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงวิ่งมาช่วยเหลือพร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยให้รีบมาช่วยเหลือ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนายสุชา ทราบว่ามีอาชีพเป็นช่างแอร์ และผู้ตายทำงานเป็นพนักงานฝ่ายผลิตอยู่ในบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งย่านพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งตนรู้จักผู้ตายมานานหลายปี เพราะมีบ้านพักอยู่ใกล้กัน ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ตนพร้อมผู้ตายและเพื่อนของผู้ตายได้นั่งดื่มเบียร์กันอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านขายของชำ ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 84 ซอยกลาง ก่อนที่จะชักชวนผู้ตายไปนั่งดื่มเบียร์กันต่อที่สะพานข้ามป้อมผีเสื้อสมุทร ท่าเรือเข้าฝากเก่า โดยมีตนเป็นคนขับและผู้ตายเป็นคนซ้อน จนกระทั่งรุ่งเช้าได้ชักชวนกันกลับบ้านพัก เมื่อมาบริเวณแยกไฟแดง ตนเห็นสัญญาณยังไฟเขียวอยู่จึงได้เร่งเครื่องด้วยความเร็วและพยายามแซงรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ก่อนที่รถจะเสียหลักล้มกลิ้งจนตนกระเด็นเข้าหาเกาะกลาง ส่วนผู้ตายกระเด็นเข้าไปในล้อรถพ่วง ถูกทับเสียชีวิต หลังที่ตนลุกขึ้นได้จึงรีบวิ่งไปดึงร่างผู้เสียชีวิตเข้าข้างทาง ซึ่งคิดว่าได้รับบาดเจ็บเท่านั้นแต่มาตกใจทีหลัง เมื่อมาพบว่ามีเลือดไหลจำนวนมากและศีรษะบี้แบน จึงรีบทิ้งร่างวิ่งหนีเข้าไปแอบในซอยฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะเดินกลับมายังที่เกิดเหตุอีกครั้งและรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสมพร โชว์เฟอร์รถ 22 ล้อพ่วง และนายสุชา คนขี่รถจักรยานยนต์ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ พร้อมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างการพบว่านายสุชาคนขี่รถจักรยานยนต์มีปริมาณแอลกอฮอล์ถึง 146 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พร้อมนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์พร้อมติดต่อญาติให้เดินไปรับศพมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป